Home » Mazda CX-8 อเนกประสงค์น้ำดี ที่หลายครอบครัวลืม ! เห็นแบบนี้ PPV อาจไม่ได้เกิด !

Mazda CX-8 อเนกประสงค์น้ำดี ที่หลายครอบครัวลืม ! เห็นแบบนี้ PPV อาจไม่ได้เกิด !

by Admin clubza.tv
CX-8 รุ่นปี 2023

Mazda CX-8 ได้รับการปรับภาพลักษณ์ไปเมื่อช่วงกลางปี 2022 ที่ผ่านมา โดยมีการปรับรายละเอียด เติมความหรูหรา พร้อมระบบความปลอดภัยให้เหนือชั้นมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การเพิ่มสีใหม่ 2 สี ทั้งสีทอง Platinum Quartz และสีเทา Polymetal Gray โดยการกลับมาในครั้งนี้ เน้นการทำตลาดใน 5 รุ่นย่อย ทั้งในรูปแบบเครื่องยนต์เบ็นซิน 2.5 ลิตร (3 รุ่นย่อย) และเครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ 2.2 ลิตร (2 รุ่นย่อย) ซึ่งมาพร้อมรายละเอียดที่แตกต่างกันออกไป โดยสิ่งที่เพิ่มขึ้นมาทั้งหมดใน Mazda CX-8 รุ่นปี 2023 มีดังนี้

Mazda CX-8 2023 กับรายละเอียดที่เปลี่ยนไป

Mazda CX-8 2023รายละเอียด
ภาพรวม– 5 รุ่นย่อย (3 รุ่นเบ็นซิน และ 2 รุ่นดีเซล)

– รุ่นท็อปสุดของแต่ละเครื่องยนต์ จะเป็นเบาะ Captain Seat 6 ที่นั่ง

– ฟรีค่าแรง ค่าไหล่ สำหรับเช็กระยะ หรือ Mazda Care 5 ปี

ภาพลักษณ์– กระจังหน้าใหม่ สี Gun Metallic

– ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ ขนาด 19 นิ้ว

– สีใหม่ แพลตทินั่ม ควอตซ์ และ โพลีเมทัล เกรย์

– หลังคาซันรูฟแบบไฟฟ้า

สิ่งอำนวยความสะดวก– Wireless Charger

– Apple CarPlay ไร้สาย และ Android Auto

– ประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมระบบแฮนด์ฟรี

ระบบความปลอดภัย– ระบบควบคุมความเร็วรถอัตโนมัติ MRCC แบบ Stop & Go ปรับใหม่ ใช้เป็นรุ่นแรก

– ระบบความปลอดภัยเชิงป้องกันที่ล้ำสมัย i-Activsense รอบคัน

– GVC Plus ในทุกรุ่นย่อย

ราคา– รุ่น 2.5S ราคา 1,549,000 บาท (+50,000 บาท)

– รุ่น 2.5SP ราคา 1,619,000 บาท (+20,000 บาท)

– รุ่น 2.5SP Exclusive ราคา 1,699,000 บาท (+60,000 บาท)

– รุ่น XDL ราคา 1,849,000 บาท (+50,000 บาท)

– รุ่น XDL Exclusive ราคา 2,199,000 บาท (+130,000 บาท)

Mazda CX-8 รุ่นปี 2023 สี Platinum Quartz

หากเทียบ Mazda CX-8 รุ่นปี 2023 เฉพาะในรุ่น 6 ที่นั่ง ซึ่งถือเป็นรุ่นท็อปของทั้งรูปแบบเครื่องยนต์เบ็นซิน 2.5 ลิตร และเครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ 2.2 ลิตร ซึ่งมีส่วนต่างกันมากถึง 5 แสนบาท ในรุ่นดีเซล ที่มีราคาสูงกว่า มีความได้เปรียบอย่างชัดเจนในเรื่องระบบขับเคลื่อน ที่จะมาในรูปแบบของการขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ Full Time ที่เรียกว่า i-Active All Wheel Drive ซึ่งช่วยยกระดับประสิทธิภาพการขับขี่ให้เหนือกว่า โดยเฉพาะในสภาพเส้นทางที่ไม่ปกติ เช่น ถนนที่เปียกลื่น รวมถึงการเดินทางผ่านเส้นทางธุระกันดาร นอกจากนี้ยังมีรายละเอียดการตกแต่ง รวมถึงอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ติดตั้งมาให้เพิ่มเติม ซึ่งจะคุ้มกับการเติมงบ 5 แสนบาท หรือไม่…ล้วนแล้วแต่ความต้องการในการใช้งาน

เทียบออพชั่นที่แตกต่างระหว่าง Mazda CX-8 2.2 XDL Exclusive และ 2.5 SP Exclusive

รายละเอียด2.2 XDL Exclusive2.5 SP Exclusive
ภายนอก– กระจังหน้าสี Gun Metallic

– ล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว ลายใหม่

– ไฟตัดหมอกหน้า LED

– ราวหลังคา

– กระจังหน้าสีเงิน

– ล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว

 

ภายใน– สีภายใน Metal Wood

– เบาะหนัง Nappa สีแดง Deep Red

– เบาะนั่ง Captain Seats ปรับไฟฟ้า

– ที่วางแขนและแก้วสำหรับเบาะแถว 2

– ระบบอุ่นและระบายอากาศเบาะตอน 1 และ 2

– สีภายใน Warm Silver

– เบาะหนังสีดำ

– เบาะนั่ง Captain Seats

– ช่องทางเดินที่เบาะแถว 2

– ระบบระบายอากาศที่เบาะคู่หน้า

เครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง– ดีเซล เทอร์โบ 2.2 ลิตร

– 190 แรงม้า 450 นิวตัน-เมตร

– ขับเคลื่อน 4 ล้อ i-ACTIV AWD

– เบ็นซิน 2.5 ลิตร

– 194 แรงม้า 258 นิวตัน-เมตร

– ขับเคลื่อน 2 ล้อหน้า

– สวิตช์ Drive Select

พื้นฐานและสมรรถนะ– ความจุถังน้ำมัน 74 ลิตร

– อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 14.7 กม./ลิตร

– น้ำหนัก 1,924 กก.

– ความจุถังน้ำมัน 72 ลิตร

– อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 13.2 กม./ลิตร

– น้ำหนัก 1,781 กก.

ระบบความปลอดภัย– ไฟหน้า LED อัจฉริยะแบบ Adaptive– ไฟหน้า LED ปรับองศาตามการเลี้ยว และปรับสูง-ต่ำ อัตโนมัติ
ราคา– 2,199,000 บาท

– ส่วนต่าง +500,000 บาท

– 1,699,000 บาท

ห้องโดยสารของรุ่นดีเซล XDL Exclusive จะมาในสีแดง Deep Red พร้อมที่วางแขน สำหรับเบาะแถวที่ 2

หากเทียบอัตราสิ้นเปลืองสำหรับ Mazda CX-8 รุ่นปี 2023 ทั้งรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์เบ็นซิน 2.5 ลิตร และดีเซล เทอร์โบ 2.2 ลิตร เครื่องยนต์ดีเซล ดูจะมีแต้มต่อที่ดีพอสมควร ด้วยอัตราการบริโภคเชื้อเพลิงจริงสำหรับการใช้งานทุกรูปแบบอยู่ที่ราว 13 กม./ลิตร ซึ่งหากเทียบกับรุ่นเครื่องยนต์เบ็นซิน ที่อยู่ในระดับประมาณ 10 กม./ลิตร ถือเป็นความต่างที่ค่อนข้างสูง เนื่องจาก Mazda CX-8 เป็นรถที่มีน้ำหนักค่อนข้างมาก ดังนั้นการมีแรงบิดในรอบต่ำมาช่วยในการออกตัว ย่อมช่วยให้การบริโภคเชื้อเพลิงต่ำลงมากกว่าเครื่องยนต์ที่มีแรงบิดน้อยกว่า แต่หากจะมองว่า ด้วยแรงบิดท่สูงกว่านั้น จะช่วยทำให้อัตราเร่งของ Mazda CX-8 รุ่นปี 2023 ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลนั้น ดีกว่าแบบผิดหูผิดตา…อาจไม่ใช่ความคิดที่ถูกต้องนัก เมื่อดูจากตัวเลขอัตราเร่งที่ #ทีมขับซ่า วัดด้วยเครื่องมือ V-Box

เทียบอัตราเร่งระหว่าง Mazda CX-8 2.2 XDL Exclusive และ 2.5 SP Exclusive
ความเร็ว (กม./ชม.)2.2 XDL Exclusive (วินาที)2.5 SP Exclusive (วินาที)
0-402.742.95
0-604.534.90
0-806.887.28
0-1009.9610.53
0-12014.0814.78
0-14019.7920.24
60-802.302.37
80-1207.217.50
100-1204.134.21
ควอเตอร์ไมล์17.32 วิ. @ 133.6  กม./ชม.17.65 วิ. @ 130.6  กม./ชม.

ทั้งรุ่นเบนซิน และดีเซล อัตราเร่งอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกัน แต่ความแตกต่างที่ชัดเจนที่สุด คือ เรื่องความรู้สึก รวมถึงอัตราสิ้นเปลือง

จากข้อมูลในตาราง จะเห็นได้ว่า ตัวเลขสมรรถนะ Mazda CX-8 รุ่นปี 2023 อยู่ในระดับที่สูสีกันมาก โดยหากไม่ได้ซีเรียสเรื่องอัตราสิ้นเปลือง (ไม่เน้นการใช้งานในเมืองเป็นหลัก) รวมถึงออพชั่นที่แตกต่างกันมากนัก รุ่นเครื่องยนต์เบ็นซิน 2.5 ลิตร ดูจะตอบโจทย์เรื่องความคุ้มค่า รวมถึงความสะดวกสบายที่ได้รับ โดยจะยิ่งชัดขึ้นเมื่อนำไปเปรียบเทียบกับรถในรูปแบบ PPV ที่มีระดับราคาไล่เลี่ยกัน เนื่องจาก Mazda CX-8 เป็นรถที่ถูกดีไซนืพื้นฐานของช่วงล่างมาในรูปแบบอิสระมัลติลิ้งค์ นั่นจึงส่งผลให้ตัวรถมีความนุ่มนวลในการโดยสาร รวมถึงให้การทรงตัวที่ดีเหนือกว่ารถในรูปแบบ PPV อย่างชัดเจน โดยข้อมูลของการทดสอบ รวมถึงรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถติดตามได้จากในคลิปของทาง #ขับซ่า7HD และ #ทีมขับซ่า ในด้านล่าง


ข่าวแนะนำ

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา ยอมรับ เรียนรู้เพิ่มเติม

Privacy & Cookies Policy