Home » Lotus Eletre ตัวแรงสายพันธุ์ EV รุ่นแรกของค่าย กับความเร้าใจในระดับ 600+ แรงม้า

Lotus Eletre ตัวแรงสายพันธุ์ EV รุ่นแรกของค่าย กับความเร้าใจในระดับ 600+ แรงม้า

by Admin clubza.tv
Lotus Eletre ตัวแรงสายพันธุ์ EV รุ่นแรกของค่าย

หลังจากที่ในประเทศไทยมีการเปิดตัว Lotus Emira ว่าที่สปอร์ตจากเมืองผู้ดีที่จะใช้เครื่องยนต์สันดาปล้วนๆ เป็นรุ่นสุดท้ายไปเพียงไม่กี่อึดใจ ในต่างประเทศก็สร้างความฮือฮาไม่แพ้กัน โดยแบรนด์ Lotus ประกาศเปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นแรกของค่าย ซึ่งมาในรูปแบบ SUV พิกัด C-Segment และถือเป็น 1 ใน 3 รุ่น ที่แบรนด์ Lotus แพลนว่าจะมีการเปิดตัวรถยนต์พลังไฟฟ้าที่พัฒนาบนแพลตฟอร์มเดียวกันในเร็วๆ นี้ โดยรถ EV รุ่นแรกของค่ายนั้น มาในชื่อ Lotus Eletre

Lotus Eletre รถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นแรกของค่ายสปอร์ตเมืองผู้ดี

หากมองย้อนไปสักเล็กน้อย Lotus Eletre ได้รับการพัฒนาขึ้นภายใต้โปรเจ็คท์ Type 132 ซึ่งถูกวางระดับราคาไว้ที่ 100,000 เหรียญฯ โดยจะมีการทำตลาดอย่างจริงจังในช่วงปี 2023 โดยนอกจากตัวรถ Lotus Eletre ที่มาในขนาดใหญ่และมีราคาที่ค่อนข้างสูงแล้ว การที่รถรุ่นนี้ถูกพัฒนาบน Lotus Electric Premium Architecture ในรูปแบบ Modular ทำให้สามารถนำแพลตฟอร์มนี้ไปปรับใช้กับรถในรูปแบบอื่นๆ ซึ่งมีขนาดแตกต่างกันออกไป เพื่อให้ตอบโจทย์กับผู้ใช้ทั้งในด้านราคาและสไตล์ได้อย่างลงตัว ตามที่บอกไปในตอนต้นว่า นอกจากรุ่นนี้แล้ว จะมีอีก 2 รุ่น ที่จะออกตามมาในระยะเวลาอันใกล้ โดยในภาพรวมถือว่า Lotus Eletre เป็นรถที่มีขนาดใหญ่มากเป็นอันดับต้นๆ ที่แบรนด์เคยทำมา โดยมีขนาดความกว้าง x ยาง x สูง ที่ 2,135 x 5,103 x 1,630 มม. ระยะฐานล้อที่ยาวถึง 3,019 มม. พร้อมล้อขนาด 23 นิ้ว

สิ่งที่น่าประหลาดใจของ Lotus Eletre (เช่นเดียวกับใน Lotus Emira ที่ออกมาก่อนหน้านี้) ก็คือ การตกแต่งภายในที่มีการเน้นรายละเอียดเพื่อสือถึงความเป็นรถในระดับพรีเมี่ยมมากยิ่งขึ้น พวงมาลัยทรงกลมมาในดีไซน์ที่ทันสมัย พร้อมแบบแสดงข้อมูลการขับขี่และสำหรับกระจกมองข้างที่แสดงผลผ่านแถบจอความสูงเพียง 30 มม. พร้อม Head Up Display ในรูปแบบ 3 มิติ AR Technology โดยในส่วนของระบบอันโฟเทนเม้นท์ มาพร้อมหน้าจอทัชสกรีนขนาด 15.1 นิ้ว จับคู่ระบบเสียงพรีเมียมจาก KEF 2,130 watt Uni-Q 3 มิติ ลำโพง 23 ตำแหน่ง, กล้อง 360 องศารอบคัน วัสดุที่นำมาใช้ภายในห้องโดยสาร นอกจากคาร์บอนแล้ว ก็ยังจะมีวัสดุรีไซเคิ่ลเพื่อแสดงสุดยืนในความเป็นรถยนต์พลังงานสะอาด ดีไซน์ในภาพรวมยังคงใส่อารมณ์สปอร์ตเช่นเดียวกับแนวทางของแบรนด์ที่สืบทอดมาจากอดีต ก่อนจับยัดอุปกรณ์อำนวยความสะดวกแบบที่เราไม่ค่อยได้เห็นใน Lotus รุ่นไหนๆ เช่น กระจกมองข้างที่รับสัญญาณจากกล้องเพื่อแสดงภาพในระบบ Electric Reverse Mirror Display (ERMD), ระบบกันสะเทือนแบบถุงลม, ระบบเลี้ยวสี่ล้อ รวมถึงระบบเฟืองท้ายแบบแอคทีฟ ซึ่งรองรับระบบการขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า นอกจากนี้ Lotus Eletre ยังรองรับระบบการขับเคลื่อนอัตโนมัติ ด้วยการติดตั้ง Lidar Sensor ถึง 4 ตัว พร้อมระบบรองรับการอัพเดทแบบ Over the Air มีความเป็นไปได้สูงว่า Lotus Eletre จะมาพร้อมมอเตอร์ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว โดยมีกำลังเริ่มต้นที่ 592 แรงม้า ซึ่งส่งให้ตัวรถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ต่ำกว่า 3 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 257 กม./ชม. ส่วนในรุ่นที่มีกำลังสูงขึ้น อาจจะถูกขยับแรงม้าเป็น 690 ตัว โดยคาดว่าน้ำหนักของ Lotus Eletre จะอยู่ที่ราว 2,2xx กก. ซึ่งความพิเศษอยู่ที่การรองรับกำลังไฟในระดับ 800 โวลต์ เมื่อจ่ายไฟด้วยเครื่องชาร์จที่มีกำลัง 350 kW จะสามารถชาร์จ Lotus Eletre ให้วิ่งได้ไกล 400 กม. ในเวลาเพียง 20 นาที เท่านั้น โดยรายละเอียดของระบบขับเคลื่อน ยังไม่ได่มีการเผยออกมามากนัก แต่คาดว่า Lotus Eletre จะมาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 100 kWh ซึ่งจะช่วยให้ตัวรถสามารถเดินทางได้ไกลราว 600 กม. ต่อการชาร์จ

การที่ Lotus หันมาพัฒนารถในรูปแบบ SUV ไม่ได้หมายความว่าทางแบรนด์จะทิ้งจิตวิญญาณความเป็นสปอร์ตที่เคยมี แต่หากมีการปรับเปลี่ยนสไตล์และทิศทางการทำตลาดให้เข้ากับยุคคสมัยมากยิ่งขึ้น แน่นอนว่าตลาดสำหรับรถสปอร์ตจะยังดำเนินต่อไป แต่อาจมีการลดสเกลลงให้เหมาะสมกับสภาวะความต้องการในปัจจุบันเท่านั้น โดยชื่อของ Eletre เป็นคำที่มาจากภาษาฮังกาเรียน แปลว่า “มีชีวิต” ซึ่งแสดงถึงการเกิดใหม่ของ Lotus ภายใต้ชายคาของบริษัทแม่อย่าง Geely (บริษัทเดียวกับที่ทำ Volvo อยู่ ณ ปัจจุบัน) โดยโรงงานของ Lotus แห่งล่าสุดตั้งอยู่ในเมืองหวู่ฮั่น ประเทศจีน ซึ่งนี่ถือเป็นครั้งแรกของการตั้งโรงงานในจีนสำหรับการผลิตรถในรูปแบบ SUV ด้วย (สำหรับรถในตระกูลสปอร์ต ยังคงจะผลิตในโรงงานที่อังกฤษตามเดิม)

 


ข่าวแนะนำ

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา ยอมรับ เรียนรู้เพิ่มเติม

Privacy & Cookies Policy