หลังจากที่เล่นข่าวกับการมาของซูเปอร์คาร์ปลั๊กอินไฮบรดรุ่นแรกของค่ายในชื่อ Revuelto มาอย่างยาวนานร่วม 2 ปี จนกระทั่งเปิดตัวไปแบบสุดฮือฮาเมื่อไม่นานนี้ ในที่สุด Lamborghini ก็มีข่าวใหม่ออกมาให้เล่นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในครั้งนี้มาแบบแอดวานซ์ไปอีกขั้น ด้วยการปล่อยข้อมูลแพลนการนำเสนอยนตรกรรมสปอร์ตไลน์อัพใหม่ๆ ของค่ายกระทิงดุ ซึ่งนับว่าเป็นการพลิกโฉมแบรนด์ซูเปอร์คาร์แห่ง Sant’Agata Bolognese ที่น่าจับตาอีกครั้ง
เมื่อปี 2021 ค่าย Lamborghini เคยออกมาให้ข่าวว่าเตรียมจะเปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นแรกของค่ายภายในปี 2028 แต่ ณ เวลานั้น ยังไม่มีข้อมูลใดๆ ที่แน่ชัดออกมา จนกระทั่งล่าสุด Stephan Winkelmann ซีอีโอ ของ Automobili Lamborghini ออกมายืนยันแล้วว่า สปอร์ตเซ็กเม้นท์ใหม่ของ Lamborghini ที่จะขับเคลื่อนด้วยพลังงาานไฟฟ้าล้วน จะมาในรูปแบบ Grand Tourer แบบ 2 + 2 ที่นั่ง ซึ่งสามารถใช้งานได้ทุกวัน โดยจะไม่ได้มาแนวครอสโอเวอร์เหมือนกับ Lamborghini Urus และจะมีความยืดหยุ่นในการใช้งานมากกว่าซูเปอร์คาร์ในตระกูล Huracan และ Revuelto
แม้จะยังไม่มีข้อมูลทางเทคนิคออกมาอย่างชัดเจน แต่ สปอร์ตพลังงานไฟฟ้าล้วนในรูปแบบ Grand Tourer แบบ 2 + 2 ที่นั่ง จากค่าย Lamborghini จะไม่ได้พัฒนาภายใต้แพลตฟอร์มของตัวเองทั้งหมด แต่จะเป็นการแชร์จุดเด่นของแต่ละแบรนด์ภายใต้ชายคาของ Volkswagen Group เพื่อให้ตัวรถมีคุณสมบัติที่ยืดหยุ่นในการใช้งาน เช่นเดียวกับ Lamborghini Urus ที่เป็นการผสานส่วนผสมของทั้ง Bentley Bentayga, Porsche Cayenne, Audi Q7/Q8 รวมถึง VW Touareg อย่างลงตัว โดยจะไม่เน้นความดิบและดุดันเหมือนแก่นแท้ความเป็น Lamborghini จนเกินไปนัก
สปอร์ตพลังงานไฟฟ้าล้วนในรูปแบบ Grand Tourer แบบ 2 + 2 ที่นั่ง จากค่าย Lamborghini จะกลายมาเป็นรุ่นที่แทรกกลางระหว่าง Urus Performante และ Huracan ซึ่งจะกลายมาเป็นรถในรูปแบบปลั๊กอินไฮบริดเช่นเดียวกับรุ่นพี่อย่าง Revuelto ภายในปี 2024 โดยหลังจากที่ สปอร์ตพลังงานไฟฟ้าล้วนในรูปแบบ Grand Tourer แบบ 2 + 2 ที่นั่ง เปิดตัวในปี 2028 ก็จะเป็นคิวของครอสโอเวอร์พลังแรงอย่าง Lamborghini Urus ที่จะแปลงโฉมเป็นรถอเนกประสงค์พลังไฟฟ้าอย่างเต็มตัวในปี 2029 นั่นหมายความว่า อนาคตของ Urus เวอร์ชั่นที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปล้วน กำลังใกล้จะมอดลงทุกขณะ ส่วน Huracan รุ่นต่อไป จะถูกพัฒนาบนพื้นฐานความเป็น Lamborghini โดยที่ไม่มีความเเป็น Audi R8 (ที่มีแพลนจะยุติสายการผลิต) เข้ามาเกี่ยวข้อง หลังจากที่ค่ายกระทิงดุสามารถสร้างผลกำไรได้อย่างน่าประทับใจในช่วง 2-3 ปีหลัง