Home รถใหม่ รีวิว Hyundai Palisade เจาะลึก จุดเด่น – ข้อสังเกต ค่าตัว 2 ล้านกว่า น่าโดนขนาดไหน ในความเป็น SUV พันธุ์แท้

รีวิว Hyundai Palisade เจาะลึก จุดเด่น – ข้อสังเกต ค่าตัว 2 ล้านกว่า น่าโดนขนาดไหน ในความเป็น SUV พันธุ์แท้

by Admin clubza.tv

Hyundai Palisade เรือธงในรูปแบบ SUV แท้ๆ จากประเทศเกาหลี เปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทย โดยชูจุดเด่นเรื่องการใช้งานในรูปแบบครอบครัวที่มีความหลากหลาย รองรับทุกไลฟ์สไตล์ได้อย่างครอบคลุม โดยการมาทำตลาดของ Hyundai Palisade นั้น ทางค่ายมองว่าเป็นคลาสที่ไม่มีคู่แข่งโดยตรง ด้วยความที่เป็นรถ SUV พิกัด D-Segment ซึ่งทำตลาดด้วย 2 รุ่นย่อย คือ Exclusive ขับเคลื่อนสองล้อหน้า ราคา 2,299,000 บาท และรุ่น Prestige ขับเคลื่อนสี่ล้อ ราคา 2,499,000 บาท และหลังจากเปิดตัวไม่นาน ทางค่ายก็เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้ทดลองขับแบบ One Day Trip ซึ่งพอจะได้ข้อมูลมาแลกเปลี่ยนใน จุดเด่น – ข้อสังเกต ของ Hyundai Palisade ดังนี้

Hyundai Palisade ราคาเริ่มต้น 2.299 ล้านบาท

ดีไซน์เน้นดุดัน บึกบึน เน้นทำตลาดต่างแดน

การออกแบบของ ชัดเจนว่าทางค่าย เน้นกลุ่มเป้าหมายในตลาดส่งออก Hyundai Palisade ทั้งทางฝั่งอเมริกา ยุโรป เพื่อเป็นหนึ่งในทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการความหรูหรา แบบคุ้มค่ากับเงินที่จ่าย (เมื่อเทียบกับรถพรีเมี่ยมแบรนด์ท้องถิ่น) รวมถึงทำตลาดในกลุ่มรถพรีเมียมในประเทศบ้านเกิด ธีมการดีไซน์จึงออกมาในแนวเรียบหรู สื่อหลายๆ คนที่ไปร่วมทดสอบพร้อมๆ กัน ต่างตั้งฉายาให้ว่า “มาเฟียมะกัน” แต่หากโดยส่วนตัวแล้ว ผู้เขียนจาก #ทีมขับซ่า กลับรู้สึกถึงดีไซน์ของ ว่าเป็นรถที่ดูซอฟท์ Hyundai Palisade แม้ว่าจะเป็นรถในสไตล์ SUV แท้ๆ ด้วยพื้นฐานโครงสร้าง แต่หากทรวดทรง และวัตถุประสงค์การออกแบบนั้น ให้ความรู้สึกในทิศทางความเป็นรถครอบครัว เน้นการใช้งานที่หลากหลาย มีความสมบุกสมบันแบบพอประมาณเสียมากกว่า

เซ็ตไฟหน้า LED พร้อมซ่อนรายละเอียดระบบส่องสว่างได้อย่างแนบเนียน

กระจกมองข้างในไฟเลี้ยว…ดีไซน์ในแบบฉบับ Palisade

ล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว จับคู่ยาง 245/40 R20 ในทั้ง 2 รุ่นย่อย

เทียบมิติตัวถัง Hyundai Palisade กับรถ PPV ในประเทศไทย

รายละเอียดพื้นฐานHyundai PalisadeFord Everest PlatinumToyota Fortuner GR SportMitsubishi Pajero Sport 2.4 Elite 4WDIsuzu Mu X Phantom 4WD
กว้าง x ยาว x สูง1,975 x 4,995 x 1,7501,923 x 4,914 x 1,8421,855 x 4,795 x 1,8351,815 x 4,825  x 1,8351,870 x 4,850 x 1,875
ระยะฐานล้อ2,9002,9002,7502,800 2,855
ขนาดล้อและยาง245/40 R20275/45 R21265/50 R20 265/60 R18265/50 R20
ระดับต่ำสุดจากพื้น203227193218235

ซึ่งหากเทียบมิติตัวถัง Hyundai Palisade กับรถในกลุ่ม PPV (ซึ่งรูปแบบ รวมถึงระดับราคา มีความใกล้เคียงกันมากที่สุด) SUV พิกัด D-Segment จากแดนกิมจิคันนี้ ถือว่ามีขนาดความยาวและความกว้าง ที่เหนือกว่ารถที่เราคุ้นเคยในท้องตลาดพอสมควรเลยทีเดียว แน่นอนว่า…ปัจจัยเหล่านี้ ส่งผลโดยตรงต่อการจัดสรรค์พื้นที่ภายในห้องโดยสาร ที่ต้องเน้นความสะดวกสบาย ในแบบฉบับรถอเนกประสงค์ระดับพรีเมี่ยม ซึ่งดูจากตรงนี้แล้ว น่าจะพอเห็นภาพได้ค่อนข้างชัดเจน

การเลือกใช้ภายในสีอ่อน ช่วยเพิ่มความรู้สึกโปร่งภายในห้องโดยสาร แต่ก็ต้องแลกมาด้วยความยากในการดูแลรักษา

เบาะแถวที่ 2 แบบแยกอิสระ พร้อมระบบอุ่นและระบายความร้อน 3 ระดับ

เบาะแถวที่ 3 กับ 3 ที่นั่ง พร้อมระบบสื่อสารผ่านลำโพงกับผู้โดยสารตอนหน้า

การออกแบบภายใน

เลือกจัดวางพื้นที่ภายในห้องโดยสารของ Hyundai Palisade เป็นรูปแบบ 7 ที่นั่ง ซึ่งในที่นี้ คือ หมายถึง จัดวางเบาะ 3 แถว เป็น 2 + 2 + 3 ที่นั่ง โดยในแถวที่ 2 เป็นที่นั่งแบบ Captain Seat แยกซ้าย – ขวา พร้อมระบบปรับอากาศทั้งอุ่น และระบายความร้อน เช่นเดียวกับเบาะคู่หน้า มาพร้อมระบบ One Touch ที่สามารถกดปุ่มตลบพับเบาะ เพื่อเข้าสู่เบาะแถวที่ 3 ได้อย่างง่ายดาย (หากขึ้นจากด้านนอก…ส่วนถ้าอยู่ภายในห้องโดยสารแล้ว สามารถเดินผ่านช่องกลาง ระหว่างเบาะแถวที่ 2 ได้เช่นกัน) ส่วนในเบาะแถวที่ 3 จะมาในรูปแบบ 3 ที่นั่ง ซึ่งก็คงเน้นเพียง “มีไว้” แต่ไม่ได้เน้น “ใช้งานได้จริง” โดยเฉพาะหากคุณเป็นผู้ใหญ์ที่มีร่างกายโตเต็มวัย การนั่งเพียง 2 คน ในช่วงเวลาสั้นๆ คงจะเป็นประสบการณ์ที่เพียงพอที่จะตอบตัวเองได้แล้วว่า ควรจะไปต่อ หรือ พอแค่นี้ เอาไว้ให้เห็นพื้นที่ส่วนตัวของเด็กๆ คุณน้อง คุณหนู น่าจะดูเข้าท่ากว่า ซึ่งหากคุณผู้ปกครองอยากจะสื่อสารกับบุตรหลานของตัวเอง Hyundai Palisade มีฟังค์ชั่นที่สามารถกดปุ่มเพื่อพูดผ่านลำโพงโต้ตอบระหว่างผู้ขับและผู้โดยสารด้านหน้า กับผู้โดยสารในเบาะตอนที่ 3 ซึ่งเป็นอีกหนึ่งลูกเล่นที่สื่อให้เห็นถึงความใส่ใจ และสะท้อนความเป็นรถที่เน้นใช้งานในรูปแบบครอบครัวอย่างแท้จริง โดยจุดแตกต่างของการตกแต่งภายในห้องโดยสาร ระหว่างรุ่น Exclusive และรุ่น Prestige นอกจากหลังคาพาโนรามิคซันรูฟ ที่มีเฉพาะในรุ่น Prestige แล้ว ในรุ่นนี้ ยังจะได้หนัง Nappa เป็นส่วนประกอบของเบาะและบุภายใน ซึ่งจะต่างจากรุ่น Exclusive ที่จะใช้หนังแท้ เป็นส่วนประกอบภายในห้องโดยสาร

มาตรวัดดีไซน์เรียบหรูบนหน้าจอขนาด 12.3 นิ้ว สามารถปรับรูปแบบการแสดงผลได้ตามโหมดการขับขี่

หน้าจอกลางขนาด 12.3 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ Apple Carplay และ Android Auto

ปุ่มสั่งการระบบต่างๆ ที่ถูกแยกออกมาเพื่อให้สามารถใช้งานได้ง่ายมากขึ้น

การที่ยังคงใช้ปุ่มแบบ Hard Switch

หลายครั้งที่เราเห็นรถยุคใหม่ เน้นศูนย์รวมการสั่งการระบบต่างๆ เข้าไปในหน้าจออินโฟเทนเม้นท์ ซึ่งแน่นอนว่า Hyundai Palisade มาพร้อมหน้าจอความคมชัดสูงขนาด 12.3 นิ้ว ทั้งในส่วนของหน้าจอแสดงผลการขับขี่ และหน้าจออินโฟเทนเม้นท์ ที่รองรับการสั่งการลูกเล่นต่างๆ ได้อย่างครบถ้วนและครอบคลุม (แม้ว่า Interface การแสดงผล จะยังดูบ้านๆ ตามสไตล์รถเกาหลีไปหน่อยก็เถอะ) แต่สิ่งหนึ่งมที่อยากจะชื่นชมมากๆ ก็คือ Hyundai Palisade ยังคงแยกเซ็ตปุ่มที่เป็น Hard Switch ออกมาไว้ภายนอก เพื่อให้ผู้ขับขี่ สามารถเลือกเซ็ตค่าต่างๆ ที่ใช้งานบ่อยได้โดยง่าย เช่น ระบบปรับอากาศ, โหมดและรูปแบบการขับขี่ รวมถึง การควบคุมฟังค์ชั่นอื่นๆ ที่สำคัญ ทำให้ผู้ขับขี่ไม่ต้องเสียสมาธิไปกับการเลือกเข้าเมนูในหน้าจอ อีกทั้งยังช่วยลดขั้นตอนในการตั้งค่าได้อีกไม่น้อย ตรงนี้คือ เต็ม 10 ไม่หัก แม้ว่าปุ่มบริเวณคอนโซลกลางจะดูเยอะแยะไปหมดก็ตาม

อาจดูธรรมดาไปสักหน่อย กับการเลือกใช้ขุมพลังดีเซลในยุคนี้ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ ว่านี่คือ ทางเลือกที่ผู้ใช้บ้านเราคุ้นเคยที่สุด

พื้นฐานโครงสร้าง เครื่องยนต์ และระบบส่งกำลัง

สิ่งที่ทำให้ Hyundai Palisade แตกต่างจากรถในรูปแบบ PPV ที่ทำตลาดในบ้านเรา คงหนีไม่พ้นเรื่องพื้นฐานโครงสร้างที่ใช้เป็นรูปแบบ Monocoque หรือใช้ตัวถังเป็นส่วนประกอบในโครงสร้างหลัก พร้อมยึดด้วยซัพเหรมชุดช่วงล่าง ที่มาในรูปแบบอิสระแม็กเฟอร์สันสตรัท ทางด้านหน้า และแบบมัลติลิ้งค์ สำหรับช่วงล่างในด้านหลัง ซึ่งแน่นอนว่า ระบบนี้จะได้เปรียบรถในกลุ่ม PPV ที่ใช้พื้นฐานในรูปแบบ Body on Frame หรือการวางตัวถังลงบนแชสซีส์ ในเนื่องการซับแรงสั่นสะเทือน รวมถึงประสิทธิภาพการทรงตัว ที่เซ็ตช่วงล่าง สามารถปรับตัวเองให้สามารถสร้างแรงยึดเกาะกับผิวถนนได้อย่างยืดหยุ่นมากกว่า โดย Hyundai Palisade มาพร้อมขุมพลังดีเซล เทอร์โบแปรผัน ในพิกัด 2.2 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 197 แรงม้า พร้อมกับแรงบิดสูงสุดแบบ Flat Torque ในระดับ 440 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ทำงานร่วมกับ Paddle Shift นอกจากนี้ยังมีโหมดการขับขี่ให้เลือกถึง 4 รูปแบบ ประกอบไปด้วย Smart, Eco, Comfort และ Sport ส่วนในรุ่นย่อย Prestige ที่มาพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ Full Time ยังจะมี Terrain Management System มาให้เลือกใช้งานอย่างเหมาะสมกับสภาพเส้นทางอีก 3 รูปแบบ ประกอบไปด้วย Snow, Mud และ Sand

ตัวเลขพละกำลังอาจไม่ได้สูงมาก แต่ก็อยู่ในระดับที่ฟัดกับคู่แข่งพิกัดเดียวกันได้ไม่ยาก

เทียบระดับพละกำลัง Hyundai Palisade กับรถ PPV ในประเทศไทย

รุ่นรถHyundai Palisade PrestigeFord Everest PlatinumToyota Fortuner GR Sport Mitsubishi Pajero Sport 2.4 Elite 4WDIsuzu Mu X Phantom 4WD
เครื่องยนต์2.2 เทอร์โบแปรผันV6 3.0  AdBlue2.8 เทอร์โบ2.4 Mivec3.0 เทอร์โบ
พละกำลัง197 @ 3,800250 @ 3,250224 @ 3,400184 @ 3,500190 @ 3,600
แรงบิด440 @ 1,750 – 2,750600 @ 1,750 – 2,250550 @ 1,600 – 2,800430  @ 2,500450 @ 1,600 -2,600
ระบบส่งกำลัง8 AT Paddle Shift10 AT E-Shifter6 AT Sequential Shift6 AT + Sport Mode6 AT Rev Tronic
ระบบขับเคลื่อน4 ล้อ Full Time  + 3 TM4 ล้อ Full Time (4A) + 6 TM4 ล้อ Sigma 44 ล้อ Super Select 4 II4 ล้อ Shift on the Fly

รูปแบบการทดลองขับ Hyundai Palisade ในครั้งนี้ ทางผู้จัดเลือกเส้นทางกรุงเทพฯ – จ.นครนายก ซึ่งมีระยะทางไป – กลับ ประมาณ 200 กม. ในสภาพเส้นการจราจรที่หลากหลาย โดยผู้ทดลองขับจาก #ทีมขับซ่า ได้ลองในรุ่น  Prestige AWD สิ่งที่สัมผัสได้จากตัวรถในทันทีที่เข้าไปภายในห้องโดยสาร คือ ความรู้สึกโปร่ง จากการเลือกใช้สีภายในโทนสว่าง ในแง่ของความรู้สึก ถือว่าช่วยยกระดับให้ตัวรถที่เดิมทีก็ใหญ่อยู่แล้ว ยิ่งดูสบายขึ้นไปอีก วัสดุไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหนังที่เหลือกใช้ รวมถึงลวดลาย ฟินิชชิ่งต่างๆ สื่อถึงความเป็นรถในระดับพรีเมี่ยมได้อย่างชัดเจน การเลือกใช้งานระบบต่างๆ ทำได้ง่าย ด้วย Hard Switch ที่พูดถึงไปแล้วก่อนหน้า, การเชื่อมต่อ Apple Carplay ทำได้ไม่ยากเพียงแค่เสียบสาย แต่สำหรับ Android Auto นั้น กับโทรสัพท์บางรุ่น บางแบรนด์ ยังดูจะต่อกันไม่ค่อยติดสักเท่าไหร่

เป็นรถที่เก็บเสียงได้ดีในทุกย่านความเร็ว โดยเฉพาะเสียงลมจากขอบมุมต่างๆ รวมถึงเสียงเครื่องยนต์ ที่หากไม่เค้นคันเร่งมากเกินไป แทบไม่มีมาให้ได้ยิน

การขับขี่ที่ความเร็วต่ำภายในเมือง การเก็บเสียงภายในห้องโดยสารของ Hyundai Palisade ถือว่าทำได้ดีมาก แทบไม่รู้สึกถึงเสียงที่เล็ดลอดเข้ามาภายใน ชุดเครื่องเสียงจาก Infinity พร้อมลำโพง 12 ตำแหน่ง มาพร้อมคุณภาพระดับระดับแบรนด์เนมที่ไว้เนื้อเชื่อในได้จริงๆ เมื่อเริ่มเดินทางด้วยความเร็วสูงได้มากขึ้น การเก็บเสียงยังคงทำได้ดี แม้ว่านี่จะเป็นรถทรงเหลี่ยมที่มีไซส์ใหญ่ โดยเฉพาะเรื่องการเก็บเสียงลม คือ ทำได้ดีมาก จะมีเพียงเสียงยางจากพื้นเท่านั้น ที่เข้ามาในห้องโดยสารบ้าง ตามลักษณะของพื้นผิวถนนที่แตกต่างกันออกไป โดยรูปแบบการขับขี่ที่จะได้ยินเสียงเข้ามาภายในห้องโดยสารมากที่สุด คือ การเร่งขึ้นเนินที่เครื่องยนต์ถูกเค้นรอบขึ้นมาสูงกว่า 2,000 รอบ/นาที อาจมีเสียงเข้ามาจากภายในห้องเครื่องบ้าง ซึ่งก็คงจะเป็นเรื่องปกติ โดยเฉพาะกับรถที่ใช้เครื่องยนต์ในรูปแบบดีเซล

ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ แปรผันการกระจายกำลังไปยังล้อต่างๆ ตามโหมดการขับขี่ และคันเร่งที่เติมลงไป

ระบบขับเคลื่อนของ Hyundai Palisade รุ่น Prestige AWD แม้ว่าโดยพื้นฐานจะใช้ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ Full Time แต่ในความเร็วจริงแล้ว ระบบจะประมวลผลเพื่อการกระจายกำลังไปยังล้อต่างๆ อย่างเหมาะสม ซึ่งจะขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้า ไม่ว่าจะเป็น การเร่งความเร็ว, โหมดการขับขี่, สภาพพื้นผิว เป็นต้น ซึ่งในสภาวะปกติ ระบบจะใช้ล้อหน้าเป็นล้อขับเคลื่อนหลัก พร้อมกระจายกำลังไปยังล้อคู่หลัง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการยึดเกาะ เมื่อต้องการเพิ่มความเร็ว จนเมื่อถึงในจุดที่ระบบประมวลผลว่ามีโหลดการทำงานที่ต่ำ จะผันกำลังไปยังล้อคู่หน้า เพื่อลดการสิ้้งเปลือง รวมถึงอัตราการสึกหรอ ซึ่งจากการทดลองขับในเส้นทางราว 200 กม. Hyundai Palisade มีอัตราสิ้นเปลืองจากการใช้งานจริงอยู่ในระดับประมาณ 11.5 – 13.0 กม./ลิตร

การเซ็ตช่วงล่างสไตล์นี้ ชวนให้นึกถึงแบบฉบับของรถพรีเมี่ยมเกาหลี ที่มีค่าตัวแตะ 4 ล้านบาท จริงๆ

อีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจมากๆ ใน Hyundai Palisade คงหนีไม่พ้น เซ็ตติ้งของช่วงล่างที่สื่อถึงความเป็นรถ Premium Korean ได้อย่างแท้จริง ไม่ว่าจะในสถานการณ์ไหนๆ ที่หลากหลายย่านความเร็ว  ตัวรถยังคงให้ความรู้สึกนิ่ง ทรงตัวได้ดี และบาลานซ์ระหว่างประสิทธิภาพการทรงตัวและความนุ่มนวลได้อย่างกลมกล่อม จะมีที่ออกอาการชัดไปสักเล็กน้อย คือ ในจัวหวะแรกที่มีการกระแทก หรือเจอเส้นรอยต่อถนนที่มีขนาดใหญ่ คนในห้องโดยสารจะรู้สึกถึงอาการกระแทกได้ค่อนข้างชัด ซึ่งเป็นเพียงสัมผัสแรกเริ่มเพียงแค่ครั้งเดียว ก่อนที่ช่วยล่างจะจัดการกับตัวเองและรักษาเสถียรภาพของตัวรถตามหน้าที่ที่ถูกเซ็ตมาอย่างเต็มประสิทธิภาพ

ขึ้นเนิบๆ ฟีลนุ่มๆ…รถครอบครัวขนานแท้

อัตราเร่ง Hyundai Palisade AWD

อัตราเร่งHyundai Palisade AWD
0-40 กม./ชม. 3.23
0-60 กม./ชม.5.22
0-80 กม./ชม.7.65
0-100 กม./ชม.10.94
0-120 กม./ชม.15.12
0-140 กม./ชม. 21.47
0-160 กม./ชม. 29.89
60-80 กม./ชม.2.43
80-120 กม./ชม.7.46
100-120 กม./ชม.4.18
ควอเตอร์ไมล์17.90 วินาที @ 129.9 กม./ชม.

#ทีมขับซ่า ลองวัดสมรรถนะของ Hyundai Palisade AWD ด้วยเครื่องมือ VBox Sport โดยการเร่งความเร็วจากจุดหยุดนิ่ง ช่วงแรกเริ่มอาจมีอาการ Lag บ้าง ทำให้ในย่านความเร็วจาก 0-40 กม./ชม. เวลาไหลยาวทะลุเกิน 3 วินาที ไปเล็กน้อย ก่อนที่รถจะตั้งตัวได้และค่อยๆ ทะยานความเร็วแบบเนิบๆ ลิเนียร์สไตลืผู้ดี ผ่านความเร็ว 100 กม./ชม. ด้วยเวลา 10.94 วินาที ซึ่งช้ากว่าที่สเป็คเคลมเอาไว้เพียงน้อยนิดเท่านั้น ถือเป็นเวลาที่อยู่ในระดับมาตรฐาน เมื่อเทียบกับรถในรูปแบบและขุมพลังพิกัดใกล้เคียงกัน ถือเป็นระดับพละกำลังและอัตราเร่ง การตอบสนองที่เพียงพอต่อความต้องการ สำหรับคนที่ไม่ได้คาดหวังว่าจะต้องมีสมรรถนะที่จัดจ้านกว่านี้

ฟีลเบรกจับได้ตรงไปตรงมาดี แต่ตัวเลขอาจไม่ได้สวยมาก เมื่อเทียบกับความเป็นรถราคานี้

ระยะเบรก Hyundai Palisade AWD

ความเร็ว (กม./ชม.)ระยะเบรก (ม.)ระยะเวลาในการเบรก (วินาที)
100 – 039.82.97
80 – 023.92.13
60 – 012.91.57
40 – 05.821.06

ประสิทธิภาพระบบเบรก ในแง่ความรู้สึก การตอบสนองของชุดเบรกที่ติดตั้งมาให้ใน Hyundai Palisade ถือว่ามีความเป็นธรรมชาติ และให้การตอบสนองที่ค่อนข้างจะตรงไปตรงมา มีเพียงการเบรกในบางครั้งที่ต้องการทีเด็ดทีขาด อาจรู้สึกถึงอาการหย่อนยานไปบ้าง ทั้งนี้ทั้งนั้น ตัวผู้ขับขี่เอง ตรงต้องทำความเข้าใจว่า สำหรับรถที่มีน้ำหนักเกินกว่า 2 ตัน การจะหยุดอย่างรวดเร็วใตแต่ละครั้ง ย่อมมีเรื่องของโมเมนตัมมากวนอกกวนใจอยู่บ้าง โดยรวมหากวัดจากตัวเลขที่ได้จากเครื่องมือ VBox Sport ตัวเลขระยะเบรกของ Hyundai Palisade อาจไม่ได้สวยหรู แต่ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน อีกทั้งตัวรถยังมีระบบความปลอดภัยและช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูง Hyundai Smart Sense มาให้อย่างครบครัน ซึ่งในแต่ละบบนั้น มีความละเอียดในการทำงานอยู่ในระดับที่ไว้เนื้อเชื่อใจได้ ถือว่าเป็นการเซ็ตการทำงานของระบบ ADAS ที่ตั้งใจให้ผู้ใช้ได้รับความสะดวกสบาย และมีประสิทธิภาพอย่างแท้จริง

ราคาแพง vs. ราคาสูง แบบไหนที่คู่ควร ?

วัดกันด้วยคุณสมบัติในภาพรวม หากจะสรุปว่า Hyundai Palisade เป็นรถที่มี “ราคาแพง” ก็ดูจะเป็นคำพูดที่ดูใจร้าย และขาดความเข้าใจในแก่นแท้ แง่ความรู้สึกและสัมผัสที่ต้องสื่อถึงอารมณ์ความเป็นพรีเมี่ยมแท้ๆ เกินไปสักหน่อย แต่หาก…เราคงต้องยอมรับว่า ด้วยราคาเริ่มต้นในระดับแตะ 2.3 ล้านบาท มีทอนเป็นค่าน้ำมันไม่ถึงครึ่งถัง ก็เป็นราคาที่สูงมากพอที่จะไปมองคู่แข่งรอบข้าง ที่มีคุณสมบัติไม่ได้แตกต่างกันมากนัก (สัมผัสไม่พรีเมี่ยมเท่า การโดยสารไม่สะดวกสบายเท่า แต่ได้เครื่องยนต์ที่มีกำลังสูงกว่า ในราคาที่เข้าถึงได้ง่ายกว่า) ตรงนี้คือ จุดสำคัญที่ทาง Hyundai เอง ต้องพยายามสื่อสารเพื่อให้ลูกค้าเข้าใจ มากกว่าการเอาคำว่า “พรีเมี่ยม” มาพูดกรอกหูแบบลอยๆ หรือเอาเพียงข้อมูลที่มีในสเป็คมาเล่า (ค่ายไหน รุ่นไหน ก็มี…ไม่ใช่เรื่องน่าตื่นเต้น สำหรับรถในระดับราคานี้) สิ่งสำคัญที่สุด คือ ลูกค้าควรจะ มีโอกาสได้ลองสัมผัส กับสิ่งที่แบรนด์และความเป็น Hyundai Palisade ต้องการจะสื่อ ซึ่งเชื่อว่า สำหรับคนที่มีโอกาสได้ลองขับ ลองนั่งโดยสาร ลองใช้ฟังค์ชั่นต่างๆ ภายในตัวรถอย่างเต็มอิ่มแล้ว สิ่งที่เรียกว่า “ความพรีเมี่ยม” แบบที่ไม่ต้องจินตนาการไปเอง จะเป็นสิ่งที่ผู้ใช้ สามารถสัมผัสได้กับ Hyundai Palisade คันนี้

 


ข่าวแนะนำ

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา ยอมรับ เรียนรู้เพิ่มเติม