Honda Civic เจนเนอเรชั่นที่ 11 เปิดตัวรุ่นไมเนอร์เชนจ์ MY2024 ไปเป็นที่เรียบร้อย โดยการกลับมาในครั้งนี้ เลือกที่จะทำตลาดใน 3 รุ่นย่อย (จากเดิม 4 รุ่นย่อย) ซึ่งแบ่งเป็นรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร เทอร์โบ ในทริม EL+ 1 รุ่น (ยกเลิกรุ่นย่อย EL) และรุ่นขุมพลังฟูลไฮบริด e:HEV จำนวน 2 รุ่นย่อย ในทริม EL+ และ RS พร้อมวางระดับราคาในช่วง 1,039,000 – 1,239,000 บาท
เพื่อให้เห็นภาพความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนมากขึ้น ในครั้งนี้ #ทีมขับซ่า จะพามาส่องรายละเอียดของ Honda Civic MY2024 ที่มีการปรับหรือเพิ่มเข้ามาในแต่ละรุ่นย่อย เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ สำหรับผู้ที่กำลังมองหารถซีดานในพิกัด C-Segment ที่ยกระดับความหรูหรา และสมรรถนะการขับขี่ให้เหนือชั้นมากยิ่งขึ้น ด้วย 2 ทางเลือกของขุมพลัง ทั้งในรูปแบบ 1.5 ลิตร เทอร์โบ ที่ให้กำลัง 178 แรงม้า พร้อมกับแรงบิด 240 นิวตัน-เมตร รองรับเชื้อเพลิงถึง E85 รวมถึงขุมพลังฟูลไฮบริด พิกัด 2.0 ลิตร จับคู่มอเตอร์ไฟฟ้า ที่ให้กำลังรวมทั้งระบบ 184 แรงม้า พร้อมกับแรงบิด 315 นิวตัน-เมตร รองรับเชื้อเพลิงถึง E20 โดยการทำงานใน EV Mode นั้น สามารถทำความเร็วได้สูงสุดในระดับ 120 กม./ชม. ซึ่งขึ้นอยู่กับโหลดการใช้งานของระบบ รวมถึงปริมาณไฟภายในแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออน
รายละเอียดที่เพิ่มมาในแต่ละรุ่นย่อยของ Honda Civic MY2024
สิ่งที่เปลี่ยนแปลงหลักๆ ใน Honda Civic MY2024 ทั้ง 3 รุ่นย่อย ก็คือ ในภายนอก มีการปรับดีไซน์ของชุดกระจัง กันชนหน้า และไฟท้ายเป็นโคมแบบรมดำ โดยรุ่น EL+ ทั้ง 2 รูปแบบเครื่องยนต์ จะมาพร้อมล้อขนาด 17 นิ้ว ส่วนรุ่น RS ที่เดิมเป็นล้อขนาด 18 นิ้ว อยู่แล้ว มีการปรับดีไซน์ของเซ็ตล้อให้ดูสปอร์ต โฉบเฉี่ยวมากยิ่งขึ้น โดยในรุ่นที่ใช้ขุมพลัง e:HEV จะมีการเพิ่มโหมดการขับขี่ Individual ที่ผู้ขับขี่ สามารถเลือกปรับค่าการตอบสนองต่างๆ ทั้งการตอบสนองของพละกำลัง, น้ำหนักพวงมาลัย, เสียงของเครื่องยนต์ รวมถึงรูปแบบการแสดงผลบนหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ได้ตามที่ต้องการ
ในส่วนของห้องโดยสาร สำหรับรุ่นเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร เทอร์โบ จากเดิมที่เคยมาพร้อมหน้าจอขนาด 7 นิ้ว ถูกปรับให้เป็นขนาด 9 นิ้ว ดีไซน์ใหม่ ที่มาพร้อมระบบ Google Built-In เช่นเดียวกับในรุ่น e:HEV อีก 2 รุ่น นั่นเท่ากับว่า Honda Civic MY2024 ทุกรุ่นย่อย มาพร้อมหน้าจอกลางในรูปแบบเดียวกัน สำหรับช่องเชื่อมต่อ USB ในรุ่น EL+ จากเดิมที่เคยเป็นแบบ Type A มาในครั้งนี้ เปลี่ยนเป็นแบบ Type C ทั้งหมด ทั้งในด้านหน้าและด้านหลังรวม 4 ตำแหน่ง และมีการเพิ่มช่องแอร์ด้านหลัง ปรับใช้เบาะหลังแบบบพับ 60:40 นอกจากนี้…ทุกรุ่นย่อย ถูกเพิ่มกระจกพร้อมฝาปิดและไฟที่บังแดดคู่หน้า

เซ็นเซอร์กะระยะหน้า 4 จุด หลัง 4 จุด และชุดเครื่องเสียง Bose 12 ลำโพง มีเพิ่มเข้ามาเฉพาะในรุ่น RS เท่านั้น
สำหรับรุ่น RS เพิ่มความพิเศษด้วยการปรับดีไซน์ของชุดเบาะใหม่ ให้มาในรูปแบบ Prime Smooth ซึ่งเป็นการผสานระหว่างหนังและหนังกลับ เย็บด้วยด้ายสีแดง อีกทั้งยังเพิ่มอรรสรสความบันเทิงด้วยเซ็ตเครื่องเสียง Bose พร้อมลำโพง 12 ตำแหน่ง นอกจากนี้ยังเติมความปลอดภัยในการเข้าพื้นที่จอดด้วยเซ็นเซอร์ช่วยกะระยะทั้งด้านหน้า 4 จุด และด้านหลัง 4 จุด โดยทั้งนี้ทั้งนั้น…ยังไม่มีกล้องมองรอบทิศทาง รวมถึง Blind Spot Monitor มาให้ใน Honda Civic MY2024 รุ่น e:HEV RS