แม้ว่าว่าสองล้อในตระกูล Honda CB500 Series จากค่ายปีกนก จะเป็นมอเตอร์ไซค์ที่หลายคนชื่นชอบ เนื่องจากเป็นรถที่พร้อมให้ทุกคนที่อยากสัมผัสอารมณ์การขับขี่มอเตอร์ไซค์ในรูปแบบบิ๊กไบค์ สามารถเข้าถึงได้แบบไม่รบกวนเงินในกระเป๋ามากจนเกินไปนัก แต่ด้วยเหตุผลด้านภาพลักษณืในช่วงเวลาที่ผ่านมา ทำให้ Honda CB500 Series ในมุมมองของหลายๆ คนนั้น รู้สึกว่าบิ๊กไบค์จาก Honda ในตระกูลนี้ ยังเป็นรถที่ “ไปไม่สุด” เนื่องจากยังขาดองค์ประกอบที่น่าสนใจบางประการ โดยเฉพาะหลักๆ ในเรื่องระบบรองรับ ที่ดูจะยังไม่สมกับฐานะรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์แท้ๆ นั่นเอง
Honda CB500 X 2022
Honda CB500 F 2022
Honda CB500 R 2022
การกลับมาในครั้งนี้ของ Honda CB500 Series เหมือนว่าทางค่าย Honda จะรู้ถึงจุดด้อยในเรื่องนี้ดี การกลับมาในเวอร์ชั่นปี 2022 จึงเรียกว่า “จัดเต็ม” แบบที่เราไม่เคยได้เห็นมาก่อนในสองล้อตระกูล 500 โดยมากันแบบครบซีรีส์ นำทีมโดยสายลุยขวัญใจมหาชน Honda CB500 X, สปอร์ตในชื่อ CBR500 R และเนคเก็ตไบค์ CB500 F ในส่วนของพื้นฐานด้านเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังนั้น ถือว่า Honda ในตระกูล 500 Series ถือว่าทำออกมาได้แบบตอบโจทย์ และเป็นที่พึงพอใจสำหรับผู้ใช้อยู่แล้ว ทำให้การปรับเปลี่ยนสำหรับ Honda CB500 Series ทั้ง Honda CB500 X, CBR500 R และ CB500 F มีเพียงการปรับระดับมาตรฐานไอเสียที่รองรับยูโร 5 ตามที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น
สำหรับ Honda CB500 X 2022 จะใช้ล้อขนาด 19 นิ้ว แบบเดียวกับที่ใช้ในรุ่นก่อน
ล้อของ Honda CB500 F และ CB500 R 2022 มีการปรับน้ำหนักให้เบาลง โดยมาในขนาด 17 นิ้ว
โช้กหัวกลับขนาดแกน 41 มม. แบบเดียวกับที่ใช้ในตระกูล 650R คาดว่า ประสิทธิภาพในการทรงตัวน่าจะดีกว่าเดิมแบบก้าวกระโดด
แน่นอนว่าสิ่งที่น่าสนใจของการอัพเกรด Honda CB500 Series ทั้ง 3 รุ่น ไม่ใช่แค่การปรับพื้นฐานเครื่องยนตืให้รองรับยูโร 5 แต่ไฮไลท์ของทั้ง Honda CB500 X, CBR500 R และ CB500 F อยู่ที่การปรับเซ็ตระบบกันสะเทือน พร้อมอัพเกรดระบบเบรกใหม่ โดยชุดช่วงล่างเปลี่ยนมาใช้โช้กอัพในรูปแบบ Upside Down จาก Showa SFF-BP มีขนาดแกน 41 มม. แบบเดียวกับที่ใช้ใน Honda CB650 R และ CBR650 R พร้อมการปรับเซ็ตความหนืดของโช้กหลังใหม่ เพื่อใหห้ได้ค่าที่สัมพันธ์กัน นอกจากนี้ทั้ง Honda CB500 X, CBR500 R และ CB500 F ยังได้รับการอัพเกรดชุดเบรก ที่จากเดิมเป็นแค่ดิสค์เบรกเดี่ยว มาในครั้งนี้เติมความหนึบด้วยดิสค์เบรกหน้าแบบจานคู่ขนาด 296 มม. จับคู่ชุดคาลิเปอรืจาก Nissin ที่ยึดกับชุดโช้กอัพในรูปแบบ Radial Mount พร้อมเสริมความปลอดภัยยิ่งขึ้นด้วยระบบ ABS ทั้งหน้า – หลัง
หน้าปัดดีไซน์คุ้นๆ จากตัว 650R เช่นกัน
นอกจากนี้แล้ว Honda CBR500 R และ CB500 F ยังได้รับการอัพเกรดเพิ่มเติมในส่วนของโครงสร้างด้วยชุดล้อที่มีน้ำหนักเบาลง ด้วยล้อขนาด 17 นิ้ว จากดีไซน์ของก้านที่ออกแบบมาให้เรียวและบางยิ่งขึ้น ส่วนล้อของ Honda CB500 X นั้น ยังคงมาในรูปแบบ 19 นิ้ว เช่นเดียวกับที่ใช้ในรุ่นก่อน โดยใน Honda CB500 Series ทั้ง 3 รุ่น จะมาพร้อมชุดสวิงอาร์มใหม่ ที่หล่อด้วยเนื้อเหล็กที่บางลง มีความยืดหยุ่นมากกว่า และแรงแรงกว่า เพื่อประสิทธิภาพในการขับขี่ที่ดียิ่งขึ้น แม้ว่าเครื่องยนต์จะยังคงใช้บล็อคเดิมแบบ 2 สูบ พิกัด “ครึ่งลิตร” ที่ให้กำลัง 47 แรงม้า แต่มีการปรับ ECU เพื่อการจ่ายเชื้อเพลิงในอัตราส่วนที่เหมาะสมและแม่นยำ เพื่อให้สามารถตอบสนองได้อย่างสมูทมากขึ้น โดยไม่กระทบต่อความสนุกในการขับขี่ พร้อมเปลี่ยนชุดหม้อน้ำใหม่ ซึ่งช่วยลดน้ำหนักตัวรถลงไปได้อีก 1 กก.
สำหรับ Honda CB500 Series 2022 ทั้ง 3 รุ่น จะมาพร้อมสีใหม่ที่เรียกว่า Grand Prix Red เป็นสีมาตรฐาน โดย Honda CB500 X มีให้เลือกเพิ่ม 2 สี คือ Mat Gunpowder Black Metallic และ Pearl Organic Green สำหรับ Honda CBR500 F ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในยุโรป มีให้เลือกเพิ่มอีก 3 สี ทั้ง Pearl Smoky Gray, Mat Axis Gray Metallic และ Pearl Dusk Yellow ส่วน Honda CBR500 R ที่ได้รับความนิยมน้อยที่สุดในยุโรป จะมีเพียง 2 สีให้เลือก คือ Grand Prix Red และ Mat Gunpowder Black Metallic
ขอขอบคุณข้อมูลแลถภาพจาก VisorDown, ultimatemotorcycling
