เป็น Talk of the Town ที่มาแรงที่สุด ณ เวลานี้ก็ว่าได้ หลังจากที่สื่อทุกสำนักต่างปล่อยรีวิวออกมาแบบเต็มสูบ สำหรับ Haval Jolion Hybrid SUV น้องใหม่ที่ออกมาท้าทายเจ้าตลาดเดิมในกลุ่ม SUV B Segment ที่มีทั้ง Honda HR-V, Toyota Corolla Cross, Mazda CX-30, Nissan Kicks e-Power รวมถึง MG ZS ซึ่งทั้งหมด ล้วนแล้วแต่มีจุดขายเฉพาะตัว โดยเฉพาะรายแรก ที่เปิดตัวมาแบบสดๆ ร้อนๆ ในราคาเริ่มต้นที่ “ไม่ข้ามล้าน” ทำเอาคู่แข่งในคลาส ต่างก็ต้องหนาวๆ ร้อนๆ ไปตามๆ กัน ส่วน Haval Jolion Hybrid SUV มีแพลนจะปล่อยราคาในช่วงค่ำวันที่ 25 พฤศจิกายน 2564 ในช่วงเวลานี้ จึงถือเป็นโอกาสสำคัญที่ต้องทำการบ้านเพื่อให้มีที่ยืนในกลุ่มรถสุดหฤโหดคลาสนี้ให้ได้
Haval Jolion Hybrid SUV จะทำตลาดเมืองไทยใน 3 รุ่นย่อย ซึ่งประกอบไปด้วยรุ่น Tech, Pro และรุ่น Ultra ซึ่งเป็นรุ่นท็อป แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ทั้ง 3 รุ่น จะมาพร้อมระบบขับเคลื่อน พร้อมฟังค์ชั่นหลักๆ ในรูปแบบเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นการใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า ที่อาศัยพลังงานจากแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบเดียวกับที่ใช้ในรุ่นพี่ Haval H6 ซึ่งหากพิจารณาจากสเป็คในตารางด้านล่าง จะเห็นได้ว่าฟังค์ชั่นพื้นฐานในหลายๆ ประการ ล้วนถูกใส่มาให้ใน Haval Jolion Hybrid SUV ทั้ง 3 รุ่นย่อย โดยเฉพาะเรื่องของเทคโนโลยีความปลอดภัย ที่จัดมาให้แบบพร้อมใช้งานเลยทีเดียว

ขุมพลังไฮบริดพร้อมชุดขับเคลื่อน DHT ผสานการทำงาน 3 รูปแบบ เพื่อมอบอัตราสิ้นเปลืองในระดับ 23.8 กม./ลิตร
อุปกรณ์พื้นฐาน Haval Jolion Hybrid SUV ในทั้ง 3 รุ่นย่อย
Haval Jolion Hybrid SUV | รายละเอียด |
เครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง | 1.5 ลิตร + มอเตอร์ไฟฟ้า |
พละกำลัง (แรงม้า) | เครื่องยนต์ 95, มอเตอร์ 156 (รวม 190 แรงม้า) |
แรงบิด (นิวตัน-เมตร) | เครื่องยนต์ 125, มอเตอร์ 250 (รวม 375 นิวตัน-เมตร) |
รูปแบบการทำงาน | DHT (Serie + Parallel Hybrid และเครื่องยนต์ส่งกำลังสู่ชุดเกียร์โดยตรง) |
ระบบเบรก | ดิสค์เบรก 4 ล้อ |
ระบบไฟส่องสว่าง | LED เปิด – ปิด อัตโนมัติ พร้อม Welcome Light และ Follow Me Home |
อุปกรณ์ภายในห้องโดยสาร | – พวงมาลัยแบบมัลติฟังค์ชั่น พร้อมคอนโซลแบบ 2 ชั้น – เบาะคนนั่งปรับมือ 4 ทิศทาง, เบาะหลังพับได้แบบ 60 : 40 – หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ขนาด 7 นิ้ว – ระบบล็อคประตูอัตโนมัติ – ระบบนำทางด้วย GPS – ระบบการเชื่อมต่อ Wifi พร้อมอัพเกรดระบบผ่านออนไลน์ Fota – ระบบสั่งการด้วยเสียง – ลำโพงปรับเสียงอัตโนมัติตามความเร็ว – การเชื่อมต่อ Bluetooth และสมาร์ทโฟน |
ระบบการควบคุมผ่านแอพพลิเคชั่น | – ระบบตรวจสอบสถานะของประตู – ระบบตรวจสอบปริมาณเชื้อเพลิง – ระบบตรวจสอบสถานะระบบปรับอากาศ – ระบบค้นหาตำแหน่งรถยนต์ – ระบบการเชื่อมต่อกับ Call Center |
เทคโนโลยีความปลอดภัย | – ระบบควบคุมเสถียรภาพและป้องกันการลื่นไถล – ระบบเตือนการชนทางด้านหน้า พร้อมช่วยเบรกฉุกเฉิน – ระบบช่วยออกตัวขณะขึ้น และลงทางลาดชัน – ระบบเตือนออกนอกเลน พร้อมระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน – ระบบช่วยรักษาระยะให้อยู่กลางเลน – ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาและเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน – คันเร่งอัจฉริยะ Intelligence Single Pedal |
หากเทียบเรื่องความแตกต่างในแต่ละรุ่นย่อย ที่เห็นชัดเจนที่สุด คงหนีไม่พ้นทริมสีในการตกแต่งภายในห้องโดยสาร ซึ่งในรุ่น Tech และรุ่น Pro จะมาพร้อมภายในสีดำ ต่างกันตรงวัสดุที่ใช้กับพวงมาลัยและเบาะ รวมถึงฟังค์ชั่นการใช้งานบางประการ ส่วนในรุ่น Ultra จะมาในโทนสีอ่อน ตัดด้วยสี Rose Gold แบบเดียวกับที่เราคุ้นเคยจากรุ่นพี่ H6 นอกจากนี้รุ่นย่อย Ultra ยังเป็นรุ่นเดียวที่มาพร้อมล้อขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 225/55 R18
ออพชั่น Haval Jolion Hybrid SUV ที่แตกต่างกันในแต่ละรุ่นย่อย
รายละเอียด / รุ่นย่อย | Tech | Pro | Ultra |
ขนาดล้อและยาง | 215/60 R17 | 215/60 R17 | 225/55 R18 |
กระจกข้างปรับ + พับไฟฟ้า | O | พับอัตโนมัติเมื่อล็อค | พับอัตโนมัติเมื่อล็อค |
ราวหลังคา | – | O | O |
สีภายใน | ดำ – เงิน | ดำ – เงิน | ดำ เทา – โรสโกลด์ |
กุญแจ Smart Key | O | พร้อม Keyless Access | พร้อม Keyless Access |
พวงมาลัย | ยูรีเทน | หุ้มหนัง | หุ้มหนัง |
วัสดุหุ้มเบาะ | ผ้า | หนังสังเคราะห์ | หนังสังเคราะห์ |
เบาะคนขับปรับ 6 ทิศทาง | ปรับมือ | ปรับไฟฟ้า + ระบายลม | ปรับไฟฟ้า + ระบายลม |
USB สำหรับกล้องบันทึก | – | O | O |
กระจกไฟฟ้า One Touch | เฉพาะคนขับ | 4 บาน + ปิดอัตโนมัติ | 4 บาน + ปิดอัตโนมัติ |
แอร์ออโต้ 2 โซน | O | O | พร้อมกรอง PM 2.5 |
ช่องแอร์ตอนหลัง | – | O | O |
ตรวจสอบแรงดันลมยาง | – | O | O |
หน้าจออินโฟเทนเม้นท์ | 10.25 นิ้ว | 10.25 นิ้ว | 12.3 นิ้ว |
ลำโพง | 4 ตำแหน่ง | 6 ตำแหน่ง | 6 ตำแหน่ง |
Cruise Control | O | แบบแปรผัน | แบบแปรผัน |
TJA | – | O | O |
เซ็นเซอร์กะระยะ | หลัง 3 | หลัง 3 | หน้า 6 หลัง 6 |
ช่วยเตือนไฟจราจร | – | O | O |
เตือนเมื่อใช้ความเร็วเกิน | – | O | O |
แม้ว่า Haval Jolion Hybrid SUV ทั้ง 3 รุ่นย่อย จะพกออพชั่นพื้นฐานมาให้แบบครบครัน แต่ด้วยสไตล์ของรถยุคใหม่ที่ต้องใส่ความพิเศษเข้าไปเพื่อสร้างจุดขาย นั่นเป็นเหตุผลที่รุ่น Ultra ต้องใส่เทคโนโลยีอัจฉริยะ รวมถึงคอสเมติกต่างๆ เข้าไป เช่น หลังคาพาโนรามิคซันรูฟ, Head Up Display, Wireless Charge โดยไฮไลท์ที่น่าสนใจที่สุด คงหนีไม่พ้น ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ 3 รูปแบบ ที่ทำงานได้อย่างน่าทึ่ง รวมถึงระบบบความปลอดภัยขั้นสูง ที่เหนือชั้นไม่แพ้รถรุ่นไหนๆ ในยุคปัจจุบัน
ออพชั่นที่มีเฉพาะใน Haval Jolion Hybrid SUV รุ่น Ultra
รายละเอียด | Haval Jolion Hybrid SUV รุ่น Ultra |
หลังคาพาโนรามิคซันรูฟ | เปิด – ปิด ด้วยไฟฟ้า |
Head Up Display | O |
กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ | O |
Wireless Charge | O |
ฟังค์ชั่นเปิดระบบปรับอากาศอัจฉริยะ | O |
ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ | 3 รูปแบบ |
กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง | 360 องศา |
ระบบความปลอดภัย | – ช่วยเบรกฉุกเฉินที่ความเร็วต่ำ – ช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้าง – ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน ในภาวะฉุกเฉิน – ช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการถูกชนจากด้านหลัง – ช่วยเตือน + เบรก เมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง – ช่วยเตือนการเปิดประตู |
อดใจรอกันอีกนิด เราคงได้เห็นภาพกันชัดมากขึ้น เมื่อทาง Great Wall Motor เผยราคาของ Haval Jolion Hybrid SUV ในวันที่ 25 พฤศจิกายนี้ ซึ่งความน่าสนใจที่สุดต่อจากนี้ คือ การขับเคี่ยวกันอย่างดุเดือด ของรถอนเกประสงค์ในกลุ่ม B Segment งานนี้…เดือดแน่นอน
Haval Jolion Hybrid SUV ครอสโอเวอร์น้องใหม่จาก GWM ลองขับแล้วตัดจบสั้นๆ ถ้าราคาดี…คือ ซื้อได้ !