Home » Haval H6 Plug-in Hybrid SUV วิ่งจริง 200 กม. ค่าใช้จ่าย…กี่บาท ? ใช้ไฟอย่างเดียว…ไปได้ไกลแค่ไหน ?

Haval H6 Plug-in Hybrid SUV วิ่งจริง 200 กม. ค่าใช้จ่าย…กี่บาท ? ใช้ไฟอย่างเดียว…ไปได้ไกลแค่ไหน ?

by Admin clubza.tv

เปิดตัวอย่างเป็นทางการพร้อมเผยราคาเป็นที่เรียบร้อย สำหรับ Haval H6 Plug-in Hybrid SUV โดยวางระดับราคาเอาไว้ที่ 1.699 ล้านบาท ทำเอาเสียงของแฟนๆ แตกออกเป็นสองฝั่ง แต่สิ่งที่น่าสนใจของ Haval H6 Plug-in Hybrid SUV คงหนีไม่พ้นเรื่องข้อมูลในการนำเสนอ เพราะนี่ คือ รถไฮบริดเสียบปลั๊กที่วิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนได้ไกลที่สุดเท่าที่เคยมีมา แถมยังเป็นรถที่มีสมรรถนะสูงในระดับกว่า 300 แรงม้า ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ทำได้ดีขนาดไหน งานนี้ #ทีมขับซ่า มีคำตอบให้ครับ

Haval H6 Plug-in Hybrid SUV ราคา 1,699,000 บาท

เริ่มกันตั้งแต่ภาพลักษณ์รวมถึงการเปลี่ยนแปลงในรายละเอียด ระหว่าง Haval H6 Plug-in Hybrid SUV กับ Haval H6 Hybrid SUV ที่เปิดตัวไปก่อนหน้า อาจดูไม่มาก แต่ถือว่าค่อนข้างมีความชัดเจนในตัวเอง ด้วยการปรับดีไซน์เปลี่ยนมาใช้กระจังหน้าแบบ Star Matrix พร้อมอัพไซส์ของยางให้มีขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 235/55 R19 เพื่อการทรงตัวที่ดีมากยิ่งขึ้น

ความแตกต่างระหว่าง Haval H6 Plug-in Hybrid SUV และ H6 Hybrid SUV

สำหรับตลาดรถ PHEV ราคาต่ำกว่า 2 ล้านบาท ในบ้านเรานั้น ถือว่ามีอยู่ไม่มาก ซึ่งแต่ละแบรนด์นั้น ถือว่ามีจุดขายในตัวเองที่ชัดเจน เช่น MG HS PHEV เน้นเรื่องความคุ้มค่าด้วยระดับราคาที่เริ่มเพียงไม่ถึง 1.3 ล้านบาท หรือแม้แต่ใน Mitsubishi Outlander PHEV แม้จะมีราคาเริ่มต้นที่ 1.64 ล้านบาท แต่สิ่งที่เป็นความพิเศษ คือ ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Super Select AWD ที่ช่วยเติมสมรรถนะการขับขี่ให้สูงขึ้นไปอีกขั้น แบบที่คันไหนๆ ในคลาสนี้ก็ไม่สามารถเลียนแบบได้ เช่นเดียวกับ Haval H6 Plug-in Hybrid SUV ที่ชูจุดเด่นเรื่องเทคโนโลยีความปลอดภัย รวมถึงระยะทางการขับเคลื่อนด้วย EV Mode ที่รองรับได้ถึง 201 กม. ต่อชาร์จ หากวัดด้วยมาตรฐาน NEDC ซึ่งด้วยแพคแบตเตอรี่ที่มีขนาดใหญ่ ทำให้ระดับราคาขยับขึ้นไปถึง 1.699 ล้านบาท

อัตราเร่ง Haval H6 Plug-in Hybrid SUV เทียบกับรุ่นอื่นๆ ในรูปแบบเดียวกัน

เทียบสมรรถนะของรถในกลุ่ม PHEV แม้ว่า Haval H6 Plug-in Hybrid SUV จะมีตัวเลขแรงม้าที่สูงกว่ามาก แต่ในความเป็นจริงแล้ว สมรรถนะโดยรวมถือว่ามีีความใกล้เคียงกัน โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับเพื่อนร่วมรุ่นที่ขับเคลื่อนด้วยระบบไฮบริด อัตราเร่งช่วงออกตัว จนถึงช่วงความเร็ว 80 กม./ชม. นั้น ดูจะยังเป็นรองอยู่เล็กน้อย จนกระทั่งที่ความเร็ว 100 กม./ชม. ขึ้นไป จึงค่อยๆ ตีคืนแล้วฉีกห่างจากคันอื่นๆ อย่างชัดเจน โดย Haval H6 Plug-in Hybrid SUV เป็นคันเดียวในกลุ่ม ที่ทำอัตราเร่งในระยะควอเตอร์ไมล์ได้ในระดับต่ำกว่า 16 วินาที

อัตราสิ้นเปลือง Haval H6 Plug-in Hybrid SUV สำหรัะบการขับขี่ในรูปแบบต่างๆ

การทดสอบรถในรูปแบบปลั๊กอินไฮบริดนั้น โดยทั่วไป #ทีมขับซ่า จะมีเส้นทางและวิธีการทดสอบในรูปแบบเดียวกัน ในรูปแบบการทดสอบที่เรียกว่า Pajingo Ring เพื่อเป็นการอ้างอิงมาตรฐานการทดสอบที่มีความแม่นยำสูงสุด (ปกติจะวิ่ง 1 รอบ ในระยะทางทดสอบ 100 กม. แต่หากรถคันไหนที่วิ่งด้วย EV Mode ได้ไกลกว่า 100 กม. จะวิ่งซ้ำในเส้นทางเดิมอีกครั้ง) ผลจากการทดสอบในครั้งนี้ Haval H6 Plug-in Hybrid SUV ชาร์จไฟเต็ม 100% หน้าจอโชว์ระยะทาง 201 กม. เลือกวิ่งด้วย EV Mode ในสภาพเส้นทางในเมืองสลับชานเมือง พบว่า สามารถวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนได้ 163 กม. ตัวรถมีการกั๊กไฟไว้อีกราว 15% หรือใช้ไฟไปราวๆ 29 kW (สังเกตจากหน้าจอแสดงการชาร์จที่สถานีบริการ) คำนวนจากตัวเลขตรงนี้ แสดงว่าอัตราการกินไฟอยู่ที่ราว 17.7 kW/100 กม. สำหรับการวิ่งต่อในไฮบริดโหมด ซึ่งเมื่อวิ่งจนครบระยะ 200 กม. หน้าจอแสดงอัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน 14.5 กม./ลิตร แต่หากวิ่งด้วยไฟเต็ม 100% ในไฮบริดโหมด การขับเคลื่อนส่วนใหญ่จะเน้นการส่งกำลังด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเป็นหลัก หากไม่ได้กดคันเร่งแบบเต็มๆ หรือใช้ความเร็วสูงเกิน 140 กม./ชม. ซึ่งเป็นความเร็วสูงสุดที่มอเตอร์ทำได้ เครื่องยนต์นั้นแทบจะไม่ติดขึ้นมาเลย เป็นที่มาของอัตราสิ้นเปลืองในไฮบริดโหมด กรณีไฟเต็มที่ต่ำกว่า 100 กม./ลิตร

ค่าใช้จ่ายต่อ 1 กม. ด้วยรูปแบบการชาร์จที่ต่างกัน

ค่าใช้จ่ายต่อการชาร์จไฟ 1 ครั้ง ของ Haval H6 Plug-in Hybrid SUV

หากคิดจากการที่ระยะทางการวิ่งด้วย EV Mode สิ้นสุด แล้วจอดชาร์จเลย การชาร์จในแต่ละรูปแบบ จะมีราคาที่ต่างกัน โดยราคาที่แพงที่สุด คือ การชาร์จตามสถานีบริการที่โดยเฉลี่ยแล้ว จะคิดค่าใช้จ่าย 7.5 บาท ต่อ kW ซึ่งหากชาร์จเต็ม 29 kW (ที่ไฟถูกกั๊กไว้ส่วนหนึ่ง) จะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ 217.5 บาท หรือคิดเป็น 1.33 บาท/กม. แต่หากวางแผนการชาร์จดีๆ แล้วเลือกเวลาการชาร์จแบบ Off Peak ที่บ้าน การชาร์จไฟต่อครั้งของ Haval H6 Plug-in Hybrid SUV จะมีค่าใช้จ่ายเพียง 75.4 บาท หรือคิดเป็น 0.55 บาท/กม. เท่านั้น

ค่าใช้จ่ายในการเดินทางของ Haval H6 Plug-in Hybrid SUV ในระยะทาง 200 กม.

ย้อนกลับไปที่การวิ่งทดสอบใน Pajingo Ring ระยะทาง 200 กม. อีกครั้ง ตัวรถ วิ่งด้วย EV Mode ในระยะทาง 100 กม. ไม่มีการใช้น้ำมันเลย แต่ใช้ไฟไฟราว 17.7 kWh คิดเป็นค่าไฟเฉลี่ย 73.8 บาท (เป็นค่าไฟเฉลี่ยสำหรับการชาร์จที่บ้าน ทั้งในรูปแบบ Peak และ Off Peak) วิ่งไปจนถึงระยะทาง 163 กม. ที่ไฟเริ่มหมด (ค่าไฟสำหรับ 163 กม. อยู่ที่ 120.3 บาท) และเครื่องยนต์ติดขึ้นมาเพื่อทำงานในรูปแบบไฮบริดอีก 37 กม. อัตราสิ้นเปลืองบนหน้าจอโชว์อยู่ที่ 6.9 ลิตร ต่อ 100 กม. หรือประมาณ 14.5 กม./ลิตร เท่ากับว่าใช้น้ำมันในระยะดังกล่าวราว 2.55 ลิตร เทียบราคาน้ำมันเฉลี่ยที่ 35 บาท/ลิตร นั่นเท่ากับว่า ในระยะทาง 200 กม. ใช้ค่าไฟ 120.3 บาท และเสียค่าน้ำมัน 89.2 บาท รวมเป็น 209.5 บาท หรือคิดเป็น 1.05 บาท/กม. สำหรับการเดินทางในระยะทาง 200 กม. ทั้งนี้ทั้งนั้น ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง อาจเพิ่มหรือลดได้ ในกรณีที่เลือกวิธีและช่วงเวลาในการชาร์จไฟที่แตกต่างกันออกไป


ข่าวแนะนำ

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา ยอมรับ เรียนรู้เพิ่มเติม

Privacy & Cookies Policy