แม้จะเพิ่งเปิดตัวไปเพียงเดือนเศษๆ แต่ต้องยอมรับว่า ค่ายรถยนต์น้องใหม่ในประเทศไทยอย่าง GWM (เกรท วอลล์ มอเตอร์) ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างล้านหลาม ทั้งในแง่ความน่าสนใจในภาพรวมของตัวผลิตภัณฑ์ ที่สามารถสร้างแรงดึงดูดระหว่างแบรนด์กับลูกค้าได้ในระยะเวลาอันสั้น รวมถึงสิ่งที่วัดผลในด้านความสำเร็จได้เป็นอย่างดี นั่นก็คือ ยอดจำหน่ายรถรุ่นประเดิมตลาด Haval H6 Hybrid SUV ที่ทำได้อย่างน่าประทับใน ซึ่งหากจะบอกว่า เป็นการสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับวงการ Compact SUV ก็คงจะไม่ใช่เรื่องที่เกินจริง
หลังจากที่เปิดราคาอย่างเป็นทางการ สำหรับ Haval H6 Hybrid SUV และเปิดจำหน่ายทั่วประเทศแบบ One Price ด้วยค่าตัวเริ่มต้น 1.149 ล้านบาท สำหรับรุ่น Pro และ 1.249 ล้านบาท สำหรับรุ่น Ultra รถอนกประสงค์มิดไซส์ Haval H6 Hybrid SUV ก็สามารถทำยอดขายได้อย่างน่าพอใจ โดยสามารถขึ้นสู่ตำแหน่ง Top 3 ได้ตั้งแต่เดือนแรกที่เริ่มจำหน่าย โดยหากนักตั้งแต่เปิดตัว จนถึงสิ้นเดือนกรกฎาคม 2564 สามารถทำยอดขายได้สูงถึง 320 คัน (รุ่น Ultra จำนวน 295 คัน และรุ่น Pro 25 คัน) นับเป็นส่วนแบ่งการตลาดที่สูงถึง 26.5% ซึ่งถือเป็นความสำเร็จก้าวแรกของ GWM (เกรท วอลล์ มอเตอร์) อย่างยิ่งใหญ่เลยก็ว่าได้
สิ่งที่ทำให้ มีความแตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ ก็คือ ความต้องการที่จะเป็นผู้นำทางด้านรถพลังงานไฟฟ้า (xEV Leader) รวมถึงการนำเสนอแนวคิดด้านการทำตลาดที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยผ่านช่องทาง O2O (Online-to-Offline) มุ่งเน้นการให้ผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง ด้วยความสำเร็จดังกล่าว ส่งให้ GWM (เกรท วอลล์ มอเตอร์) ขยายระยะเวลาแคมเปญ Premium Deal เพื่อให้ลูกค้าใหม่ๆ ได้มาสัมผัสประสบการณ์กับ Haval H6 Hybrid SUV ได้อย่างทั่วถึง หลังจากที่มีลูกค้าลงทะเบียนนัดหมายเพื่อขอทดลองรถกว่า 9,000 ราย ซึ่งในระยะเวลาที่ผ่านมา ถือว่า GWM (เกรท วอลล์ มอเตอร์) มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด ด้วยการทยอยเปิดตัว GWM Store และ Partner Store เพื่อให้สามารถส่งมอบ และดูแลลูกค้าได้ครอบคลุมทั่วประเทศ
อีกหนึ่งปัจจัยที่แสดงให้เห็นว่า GWM (เกรท วอลล์ มอเตอร์) ให้ความใส่ใจกับลูกค้าอย่างแท้จริงก็คือ ในส่วนของบริการต่างๆ ที่จัดการให้ถึงที่เป็นเสมือนการเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับผู้ใช้รถชาวไทย ไม่ว่าจะเป็น การส่งรถให้ทดสอบ Haval H6 Hybrid SUV ถึงหน้าบ้าน (Door-to-Door Test Drive) รวมถึงการให้บริการบริการส่งมอบรถ Haval H6 Hybrid SUV ถึงหน้าบ้าน (Door-to-Door Delivery Service), บริการรับและ/หรือส่งรถยนต์เพื่อรับบริการตรวจเช็กระยะ (Door-to-Door Pick-up and Delivery on Demand) และบริการตรวจเช็กระยะตามตารางบำรุงรักษานอกสถานที่ (Door-to-Door Mobile Service) ที่นอกจากจะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าแล้ว ยังเป็นการสร้างความปลอดภัยให้กับลูกค้า ซึ่งสอดคล้องกับสถานการณ์การระบาดของ Covid 19 ในยุคปัจจุบัน โดยลูกค้าสามารถกดดูรายละเอียดการให้บริการแบบ Door-to-Door ได้ที่ GWM (เกรท วอลล์ มอเตอร์)
นอกจากในประเทศไทยแล้ว GWM (เกรท วอลล์ มอเตอร์) ยังเป็นแบรนด์รถยนต์ที่ถือว่าประสบความสำเร็จด้านยอดขายกว่า 60 ประเทศ ในทุกๆ ภูมิภาคทั่วโลก แม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะยังคงส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวม แต่ GWM (เกรท วอลล์ มอเตอร์) ยังสามารถทำยอดจำหน่ายสะสมได้สูงถึง 700,000 คัน ในระยะเวลาเพียง 7 เดือน โดยมีการเติมโตเพิ่มขึ้น 49.9% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2020 นับเป็นการแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของแบรนด์ GWM (เกรท วอลล์ มอเตอร์) ที่แข็งแกร่ง และเป็นที่ยอมรับของผู้ใช้ทั่วโลก
…………………………………..
Haval H6 Hybrid SUV เปรียบเทียบรุ่นย่อย Pro vs. Ultra จ่ายเพิ่ม 1 แสนบาท แลกมาด้วยอะไรบ้าง ?