Ford Ranger 2022 นับว่าเป็นปิคอัพที่หลายๆ คนรอคอยมากที่สุดในปีนี้ ซึ่งต้นกำเนิดของรถในสไตล์นี้ โดยส่วนใหญ่จะได้รับความนิยมสูงในประเทสออสเตรเลีย ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลก ที่เราจะเห็นการออกแบบ พัฒนา รวมถึงทดสอบ จะเกิดขึ้นในละแวกนั้น ล่าสุดทาง Ford ออสเตรีเลีย ได้ทำคลิปทดสอบ Ford Ranger 2022 แบบสุดหิน ในทุกสภาวะ และภูมิประเทศที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น กรวด ทราย หิน หิมะ ซึ่งนี่จะเป็นสิ่งยืนยันได้ว่า Ford Ranger 2022 พร้อมแล้วที่จะออกมาโลดแล่นในเร็วๆ นี้
Ford Ranger 2022 กับทีเซอร์โหดๆ เวอร์ชั่น…โดดไม่ยั้ง !
คาดว่า Ford Ranger 2022 จะเปิดตัวในปีหน้า ก่อนทำตลาดอย่างจริงจังในปี 2023 หลังจากที่มีภาพการทดสอบหลุดออกมาทั้งในยุโรปและอเมริกา ตั้งแต่ช่วงกลางปีนี้ แม้ว่าในคลิปทดสอบ Ford Ranger 2022 ดังกล่าว ตัวรถจะยังถูกปกคลุมด้วยลายพราง แต่จากรายละเอียดที่ได้เห็น นับว่าชัดเจนแล้วว่า Ford Ranger 2022 จะมาพร้อมชุดไฟหน้าวางแนวตั้ง แบบเดียวกับที่ใช้ใน Ford F-150 โดยจะมาพร้อมกระจังหน้าขนาดใหญ่ พร้อมชุดโป่งซุ้มล้อที่ดูบึกบึน โดยทาง Ford คุยสรรพคุณว่า Ford Ranger 2022 จะมาพร้อมอีกขั้นของสมรรถนะในการขับขี่ ภายใต้ DNA ของปิคอัพพันธุ์แกร่ง ที่เป็นที่สุดในทุกๆ ด้าน ทั้งในเรื่องพละกำลัง, การเชื่อมต่อ รวมถึงความหลากหลายในการใช้งาน
อย่างที่รู้กันดีว่า Ford Ranger 2022 เป็นแฝดต่างฝากับปิคอัพที่พัฒนาร่วมกันอย่าง Volkswagen Amarok (นี่อาจเป็นส่วนหนึ่ง Ford Ranger 2022 ที่ยังทำให้ ต้องรอเวลาในการเปิดตัวออกไปอีก) ซึ่งคาดว่าจะพัฒนาบนแพลตฟอร์ม T6 เช่นเดียวกับที่ใช้ใน Ford Bronco ตัวเลือกด้านขุมพลังของ Ford Ranger 2022 คาดว่าจะมีให้เลือกหลากหลาย เริ่มด้วยบล็อค EcoBoost 2.3 ลิตร 4 สูบ เทอร์โบ กำลัง 300 แรงม้า, บล็อค V6 2.7 ลิตร EcoBoost กำลัง 330 แรงม้า และเครื่องยนต์ EcoBoost 3.0 ลิตร กำลัง 400 แรงม้า แบบที่ประจำการใน Ford Bronco Warthog 3.0 และที่ขาดไม่ได้ คือ Ford Ranger Raptor สำหรับในยุโรป, ออสเตรเลีย และบางตลาด (คาดว่าจะรวมประเทศไทยด้วย) จะมาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล EcoBlue 2.0 ลิตร Bi-Turbo
แต่สิ่งที่น่าสนใจกว่านั้น และเป็นความเคลื่อนไหวที่กหลายคนรอคอย นั่นคือ การมาของ Ford Ranger 2022 ในรูปแบบปลั๊กอินไฮบริด หรือ PHEV ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจริง Ford Ranger 2022 จะเป็นรุ่นแรกของค่ายที่ใช้ระบบ Power Train ในแบบไฮบริดเสียบปลั๊ก ด้วยมาตฐานในยุโรปที่มลพิษต้องเป็นศูนย์ ภายในอีก 5 ปี นับจากนี้ โดยคาดว่าเครื่องยนต์ที่จะถูกนำมาจับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า คือ บล็อค EcoBoost 2.3 ลิตร ซึ่งเมื่อรวมกำลังกันแล้ว จะสามารถทำแรงม้าได้ถึง 362 ตัว และมีแบตเตอรี่ที่เหมาะสม เพียงพอสำหรับการใช้งานที่ครอบคลุม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพจาก Carscoop
