ตูด “เสรือก” คล้าย SUV เยอรมัน ??
ช่วงที่ “ปล้อน” ยังเรียนอยู่นั้น แถวปากซอยอลาดินมีบ้านหนึ่งที่มีรถสปอร์ตอเมริกันจอดอยู่ สีแดงสดใสของมันทำให้เขาต้องหยุดเดินเพื่อแอบชมโฉมมันบ่อยๆ จนเข้าเรียนสายโดนวิ่งรอบส้วมสิบรอบ จนเย็นวันหนึ่งขณะที่เขาเดินตัวตรงกลับบ้าน ไอ้รถสีแดงที่ว่านั้นก็เลี้ยวออกมาจากบ้านพอดี อ่านแบดจ์ที่แปะอยู่เห็นแว๊ปๆว่า “Mach 1” เห็นโลโก้ม้าติดหรา มาค้นดูจึงรู้ว่ามันคือ FORD Mustang Mach 1 ที่ออกมาตั้งแต่ปี 1968 ส่วนคันที่เขาเห็นนั้นเป็นปีอะไรก็ไม่ทราบเหมือนกัน แต่คงจะย้อนไปลึกเอาการอยู่ !!
จากการสืบค้นของเขาทำให้ทราบว่า FORD ได้ไล่วางเครื่องให้มันตั้งแต่บล็อคกลาง 5.8 ลิตร V8 คาร์บิวดูดลง 2 ท่อ ได้มา 250 แรงม้า ที่ 4,600 rpm. แรงบิด355 ปอนด์–ฟุต ที่ 2,600 rpm. ไปจนบล็อคยักษ์ 7.0 ลิตร V8 คาร์บิวดูดลง 4 ท่อ ที่คราวนี้ได้มา 335 แรงม้า ที่ 5,200 rpm. แรงบิด 440 ปอนด์-ฟุต ที่ 3,400 rpm. จากนั้นปล้อนก็ไม่ได้ติดใจอะไรอีก เพราะในใจของเขานั้นฝันถึง TOYOTA หน้าแหลมสีทองเป็นที่สุด
เจ้า Mach 1 นี้กลับมาอีกทีตอนเขาจบมาทำงานเป็นสื่อมวลชนสายรถยนต์แล้ว คือประมาณปี 2003 กับเครื่อง 4.6 ลิตร V8 ที่คราวนี้เป็น 4 วาล์วต่อสูบ DOHC ที่เป่าอัดด้วยซุปเปอร์ชาร์จซ้ำเข้าไป แต่ก็ไม่ได้เน้นม้ามากมายอะไร ไม่เค้นอะไรมากก็ได้ออกมา 310 ตัว แรงบิด 335 ปอนด์-ฟุต ซึ่งก็เพียงพอในการดีดน้ำหนักตัวตันครึ่งของมัน จาก 0-60 ไมล์/ชั่วโมงใน 5.6 วินาที ทำ 0-105 ไมล์/ชั่วโมงใน 13.5 วินาที !!
กลายมาเป็น FORD Mustang Mach-E
เมื่อเข้าสู่ยุครถยนต์ไฟฟ้า FORD ก็จับ Mach 1 มาใส่หัวใจแห่งพลังที่เสริม “ใย Electric” เข้าไปไม่รีรอ และกะจะวางแผงขาย เอ๊ย! กระจายสู่ดีลเลอร์ในปี 2021 นี้ ครั้งนี้ไม่ได้มาในโฉมสปอร์ตคูเป้อย่างที่ปล้อนเคยเห็น แต่มาในคราบ SUV ว่ะ ปล้อนอุทานขั้นแรก ตามด้วยคำวิจารณ์ขั้นสองว่าท้ายแม่งไปเหมือนพวก SUV Sportback ค่ายเยอรมันแบบไม่ผิดเพี้ยน ซึ่งถ้ามีตังค์เขาก็พอที่จะรับมันมาเป็นยานพาหนะประจำครอบครัวได้ เพราะปัจจุบันเขามีครอบครัวเป็นของตัวเองแล้ว ต้องขนถ้วยชามรามไหไปหุงหาอาหารอยู่ตามชายป่าละเมาะเสมอๆ SUV ก็เหมาะอยู่หรอก …เขาคิดคำนึง…
Mach 1 พลังไฟฟ้าในร่าง SUV นี้ มาทั้งแบบขับสองล้อหลัง ทั้งขับ 4 AWD ซึ่งเป็นรุ่นเริ่มต้น ใช้แบตจ่ายพลัง 75.7 kWh หมุนปั่นออกมา 255 แรงม้า แรงบิด 306 ปอนด์-ฟุต ที่ทำ 0-60 ไมล์/ชั่วโมง ประมาณ 6 วิต้น วิ่งใช้งานเฉลี่ยได้ประมาณ 370 กม./ชาร์จ และก็มีรุ่นที่โรงงานออกแบบมาพิเศษ เพื่อ “ยืด” ระยะวิ่ง แปะคำว่า “Extended Range และ Premium Extended Range ” เข้าไป คือได้ระยะวิ่งต่อชาร์จมากขึ้น เป็นประมาณ 434-480 กม./ชาร์จ ได้แรงม้ามากขึ้นเป็น 333 ตัว แรงบิด 417 ปอนด์–ฟุต ครั้งนี้ทำ 0-60 ไมล์/ชั่วโมงเหลือ 5 วิกลาง วึ่งถือว่าไม่น้อยหน้า SUV Turbo ตัวใด !!
“ปล้อน” รอรุ่น GT
แม้ทราบดีว่า Mach 1 ตัวนี้เขาเน้นขายที่อเมริกาเป็นหลัก แต่ปล้อนก็ไม่สิ้นหวัง หนุ่มวัยแรง แข่งการซอย อย่างเขามองข้ามช็อตไปที่ตัว GT High-performance ของมัน เพราะ 459 ม้า โคตรแรงบิด 634 ปอนด์-ฟุต ขับสี่ ของมัน กับระยะต่อชาร์จที่ทำได้ประมาณ 400 กิโลเมตร น่าจะทำให้เขาแอบพา บรรดา “น้อย” ทั้งหลายในพอร์ทโฟลิโอ หลบ COVID 19 ไป-กลับย่านลับตาคนแถวชายทะเลได้ โดยการชาร์จเพียงครั้งเดียวจากบ้าน !!
ในงานโชว์รถบ้านเรา ปล้อนได้แอบไปเดินลูบๆคลำๆ FORD Mustang ฉลองครบ 55 ปีกับเขาเหมือนกัน ทั้งตัวบล็อคเล็ก 2.3L EcoBoost Coupe Performance Pack ที่ได้มา 290 แรงม้า และแรงบิด 441 นิวตันเมตรและบล็อคแรง V8 ขนาด 5.0 ลิตร 449 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 529 นิวตันเมตร
ชิ…!! กรูไม่พอใจแค่นั้นหรอก “ปล้อน” มองไปที่ Mach 1 ที่วาง 5.0 ลิตร V 8 “Coyote” กับ 480 แรงม้า ที่คราวนี้เกิดขึ้นที่รอบสูงระดับ 7,000 rpm. แรงบิด 420 ปอนด์-ฟุต ที่ 4,600 rpm. ที่แชร์หลายๆอย่างมาจาก FORD Shelby GT แม้จะเป็นเครื่อง NA. แม้จะรู้ว่าโอกาสที่จะถูกนำเข้ามาขายบ้านเราจะค่อนข้างริบหรี่ก็ตาม
