Home » รวมรถ EV น่าโดนในงาน Motor Show 2023 สเปคเด็ด ราคาดี ครบทุกสไตล์แบบนี้…พลาดได้ไง ?

รวมรถ EV น่าโดนในงาน Motor Show 2023 สเปคเด็ด ราคาดี ครบทุกสไตล์แบบนี้…พลาดได้ไง ?

by Admin clubza.tv
รวมรถ EV น่าโดนในงาน Motor Show 2023

นอกจากการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ของค่ายต่างๆ กว่า 10 รุ่นแล้ว สิ่งหนึ่งที่ได้รับความสนใจจากแฟนๆ ในงาน Motor Show 2023 คงหนีไม่พ้น บรรดารถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นใหม่ๆ ที่ยกทัพมาโชว์ตัวพร้อมเปิดราคากันแบบครบทุกเซ็กเม้นท์ ไล่ตั้งแต่รถในรูปแบบ City Car รวมถึงรถอเนกประสงค์ในสไตล์ e MPV ที่ถือเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ที่มีการเปิดตัวรถในรูปแบบนี้ ส่วนจะมีรถ EV คันไหน ที่ถูกอกถุกใจในงาน Motor Show ครั้งนี้กันบ้าง #ทีมขับซ่า รวบรวมมาให้ชมกันครับ

Lexus RZ450 e

Lexus RZ450 e (ราคาคาดการณ์ 3,870,000 – 4,190,000 บาท)

รถยนต์พลังงานไฟฟ้าล้านรุ่นที่ 2 ของ Lexus เผยโฉมในประเทศไทย ไปเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา นี่ถือเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นแรก ที่พัฒนาบนแพลตฟอร์ม e-TNGA ที่ออกแบบมาสำหรับรถ EV โดยเฉพาะ (Lexus UX300 e ที่เปิดตัวไปก่อนหน้า ใช้แพลตฟอร์มร่วมกับรถในรูปแบบปกติ) โดย Lexus RZ450 e ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์คู่ ให้กำลังสูงสุดในระดับ 308 แรงม้า กับแรงบิด 435 นิวตัน-เมตร ขับเคลื่อนสี่ล้อ Direct 4 All Wheel Drive ให้อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 5.3 วินาที จับคู่แบตเตอรี่ขนาด 71.4 kWh รองรับการเดินทางต่อชาร์จ 470 กม. รองรับการชาร์จแบบปกติที่ 6.6 kW และสามารถชาร์จแบบเร็วได้ด้วยกำลังไฟ 150 kW จาก 10-80% ใน 30 นาที ทำตลาดในประเทศไทยด้วย 2 รุ่นย่อย วางราคาในระดับ 3,870,000 – 4,190,000 บาท

BYD Denza D9

BYD Denza D9

BYD Denza D9 (ยังไม่มีการทำตลาดในประเทศไทย)

เป็นอีกหนึ่งเซ็กเม้นท์ที่ถุกจับตามองมากๆ สำหรับรถตู้อเนกประสงค์พลังงานไฟฟ้า ซึ่งในงานนี้…ค่ายรถ EV แบรนด์ชั้นนำอย่าง BYD ยังคงจัดผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายมาให้ชมกันอย่างจุใจเช่นเคย โดยอีกหนึ่งไฮไลท์ภายในงาน Motor Show 2023 คงหนีไม่พ้น BYD Denza D9 รถตู้ EV ในรูปแบบ 7 ที่นั่ง ที่ได้รับการพัฒนาภายใต้พื้นฐานโครงสร้าง e Platform 3.0 โดยสเป็คที่นำมาโชว์ตัวภายในงานนั้น ยังเป็นรูปแบบพวงมาลัยซ้าย ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ให้กำลังรวม 374 แรงม้า ชูจุดเด่นด้วยเบาะนั่งแถวที่ 2 ที่มาพร้อมที่นั่งแบบ Captain Seat หุ้มด้วยหนัง Nappa พร้อมฟังค์ชั่นปรับอุณหภูมิและนวดไฟฟ้า, หน้าจออินโฟเทนเม้นท์แยกเฉพาะที่นั่ง ตอบโจทย์การใช้งานในสไตล์ที่หรูหราอย่างเต็มรูปแบบ

Mercedes-EQB 250 AMG Line

Mercedes-EQB 250 AMG Line ราคา 3,020,000 บาท

สายครอบครัวน่าจะถูกใจสิ่งนี้ ! หลังจากที่ค่าย Mercedes-Benz ได้เปิดตัว Mercedes-EQB 250 AMG Line รถครอบครัวในรูปแบบ 5 ที่นั่ง ที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 100% ความน่าสนใจนอกจากพละกำลังในระดับ 190 แรงม้า พร้อมแรงบิด 385 นิวตัน-เมตร ซึ่งพร้อมรองรับการเดินทางได้ไกลสุดถึง 469 กม. ต่อการชาร์จแล้ว คงหนีไม่พ้นเรื่องการวางระดับราคา ซึ่งโดยปกติแล้ว Mercedes-Benz GLB200 ในทริม AMG Dynamic จะมีราคาอยู่ที่ 2.999 ล้านบาท หากนำมาเทียบกับ Mercedes-EQB 250 AMG Line ที่มีราคาเพียง 3,020,000 บาท เท่ากับว่ามีส่วนต่างเพียง 21,000 บาท ในการขยับจากรถในรูปแบบเดียวกัน (หากไม่ได้ใช้ความเป็นรถ 7 ที่นั่ง) ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาป ไปเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ที่ให้ความคุ้มค่า รวมถึงเทคโนโลยีในการขับเคลื่อนที่ล้ำสมัยกว่า

BMW i4 eDrive 35 M Sport

BMW i4 eDrive 35 M Sport ราคา 3,899,000

นับเป็นอีกหนึ่งทางเลือกใหม่สำหรับคนที่กำลังมองรถในสไตล์พรีเมี่ยมซีดาน ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100% โดย BMW i4 eDrive 35 M Sport ถือว่าเป็นรุ่นที่มาแทนที่รุ่นพี่ในรหัส eDrive 40 ที่เปิดตัวไปก่อนหน้า ซึ่งหากว่ากันตามระดับราคา รวมถึงรายละเอียดต่างๆ ที่ให้มาแล้ว ดูจะชิดกับรุ่นใหญ่ BMW i4 M50 มากเกินไปจนแย่งส่วนแบ่งทางการตลาดกันเอง งานี้ทางค่ายจึงต้องวางรุ่นย่อยใหม่ เพื่อให้แตกต่างและรองรับกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ได้มากขึ้น โดย BMW i4 eDrive 35 M Sport มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนที่ล้อคู่หลัง ให้กำลัง 286 แรงม้า พร้อมแรงบิด 400 นิวตัน-เมตร (รุ่น eDrive 40 กำลัง 340 แรงม้า 430 นิวตัน-เมตร)  แบตเตอรี่มีความจุ 70.2 kWh (ลดจากรุ่น eDrive 40 ที่มาพร้อมแบตขนาด 83.9 kWh) ระยะการเดินทางต่อชาร์จ 483 กม. ตามมาตรฐาน WLTP (eDrive 40 อยู่ที่ 590 กม.)  และราคาถูกลง 600,000 บาท

MG ES

MG ES ราคา 959,000 บาท

สำหรับผู้ที่กำลังมองหา รถในสไตล์สเตชั่นแวกอน ที่สามารถใช้งานได้จริงสำหรับครอบครัว เชื่อได้ว่า MG ES น่าจะเป็นหนึ่งในรถที่สามารถตอบโจทย์ได้อย่างน่าสนใจ ด้วยดีไซนืที่ดูหรูหรา ภายใต้การพัฒนาบนแพลตฟอร์มใหม่ ซึ่งช่วยส่งให้ตัวรถมีพื้นที่ใช้สอยภายในห้องโดยสารมากยิ่งขึ้น อีกทั้งเรื่องของระบบขับเคลื่อนและแบตเตอรี่ยังถูกยกระดับให้มีสมรรถนะที่สูงขึ้น โดยตัวรถมาพร้อมกำลังในระดับ 177 แรงม้า และแรงบิด 280 นิวตัน-เมตร พร้อมความพิเศษเพียงรุ่นเดียวในคลาส ที่สามารถรองรับการชาร์จแบบปกติได้สูงถึง 11 kW นั่นหมายความว่า การชาร์จจาก 0-100% สามารถทำได้ภายในระยะเวลาที่ต่ำกว่า 5 ชั่วโมง นอกจากนี้ MG ES ยังมาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน ระบบความปลอดภัยขั้นสูงที่สามารถรองรับการขับขี่ในทุกรูปแบบ รวมถึงระบบสั่งการและตรวจสอบสถานะของตัวรถผ่าน iSmart Lite อีกด้วย ครบขนาดนี้ ยังมองว่านี่คือ EP อัพเกรด…ก็จะดูใจร้ายเกินไปหน่อยไหม ?

MG Maxus 9

MG Maxus 9 ราคาประมาณการณ์ 2.3x – 2.5x ล้านบาท

ว่ากันด้วยเรื่องเซอร์ไพรซ์แห่งวงการรถ EV ภายในงาน Motor Show 2023 หนึ่งในนั้นคงหนีไม่พ้น การมาของรถตู้อเนกประสงค์ในแบบฉบับที่เรียกว่า e MPV อย่าง MG Maxus 9 ซึ่งนี่…ถือเป็นการเปิดตัวครั้งแรกของเวอร์ชั่นพวงมาลัยขวาในเอเซียอาคเนย์ ยิ่งไปกว่านั้น ทาง MG ยังเปิดให้จับจอง MG Maxus 9 ภายในงาน พร้อมประกาศว่าจะเผยราคา และส่งมอบรถภายในเดือนพฤษภาคมนี้อีกด้วย มีการคาดการณ์กันว่า ระดับราคาจะอยุ่ในช่วงระหว่าง 2.3 – 2.5 ล้านบาท สำหรับรุ่นย่อย X และ V ตามลำดับ โดยไฮไลท์ในรุ่น V คือ เบาะในรูปแบบ VIP Captain Seat ที่สามารถปรับตำแหน่งได้อย่างหลากหลาย (ซ้าย ขวา หน้า หลัง) เพื่อปรับตำแหน่งในการนั่ง หรือการเข้า – ออก ในแนวที่ 3 ได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น ฟังค์ชั่นการปรับเบาะ พร้อมระบบนวดและปรับอุณหภูมิ ควบคุมด้วยหน้าจอสีแบบสัมผัส มาพร้อมโต๊ะพับที่พร้อมจะปรับห้องโดยสารให้กลายเป็นออฟฟิศส่วนตัวได้อย่างง่ายดาย

BYD Dolphin

BYD Dolphin ราคาคาดการณ์ 799,999 บาท

สุดเซอร์ไพรซ์ ! และ เซอร์ไพรซ์ที่สุด ในงาน Motor Show 2023 แน่นอนว่าหนีไม่พ้น City Car พลังไฟฟ้าอย่าง BYD Dolphin ที่มาเปิดตัวในงานแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย (ในรอบ VIP รถที่จอดโชว์ในงาน ยังเป็นเวอร์ชั่นพวงมาลัยซ้าย) ในเวอรชั่นที่เป็นพวงมาลัยขวาครั้งแรกในโลก !!! พร้อมราคาแบบสุดว้าว ไม่ข้าม 8 แสนบาท ใมนส่วนของสเป็คอาจแตกต่างจากรุ่นที่เคยนำมาโชว์เล็กน้อย โดยเป็นรุ่นที่มาพร้อมมอเตอร์ขับเคลื่อน 94 แรงม้า พร้อมแรงบิด 180 นิวตันเมตร จับคู่กับแบตเตอรี่ขนาด 44.9 kWh รองรับการเดินทาง 410 กม. ต่อชาร์จ และสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 160 กม./ชม. ความน่าสนใจอยู่ที่รายละเอียดภายในห้องโดยสาร ที่ได้รับการตกแต่งให้ดูหรูหรา ให้กลิ่นอายของรุ่นพี่ Atto 3 ไม่ว่าจะเป็นเบาะนั่งคู่หน้าแบบสปอร์ต เบาะนั่งด้านหลังแบบพับแยก 60:40 พร้อมที่วางแขนตรงกลาง นอกจากนี้ BYD Dolphin ยังมาพร้อมระบบช่วยเหลือการขับขี่และระบบความปลอดภัยขั้นสูง เช่น ระบบควบคุมความเร็วแปรผันอัตโนมัติ, กล้องมองภาพ 360 องศา, ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ, ระบบช่วยเตือนพร้อมป้องกันการออกนอกเลน, ฟังค์ชั่นเตือนมุมอับสายตา ฯลฯ

นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของรถใหม่ และ รถ EV ที่ถูกนำมาเปิดตัวภายในงาน Motor Show 2023 สำหรับท่านที่สนใจ สามารถเข้าชมงานได้ตั้งแต่วันนี้ จนถึง 2 เมษายน 2566 ที่อิมแพค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ เมืองทองธานี เวลา 12.00 – 22.00 น. และ 11.00 – 22.00 น. (สำหรับวันเสาร์ – อาทิตย์)


ข่าวแนะนำ

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา ยอมรับ เรียนรู้เพิ่มเติม

Privacy & Cookies Policy