แม้ว่ากระแสของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือ EV Car จะมาแรง ทำให้ความต้องการรถยนต์ในโลกมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างก้าวกระโดดในช่วง 1-2 ปีนี้ จนหลายๆ ค่าย ทั้งฝั่งยุโรป ญี่ปุ่น จีน หรือแม้แต่อเมริกา ที่เคยเป็นแบรนด์ที่มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาเคร่องยนต์สันดาป ต่างก็ต้องปรับตัวเพื่อเร่งปล่อยผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้ให้มากที่สุด

2022 ยุคที่รถ EV อาจจะเป็นคำตอบที่ใช่ แต่ไม่ได้เหมาะสำหรับทุกคน

สาเหตุหลักๆ ของการปรับเปลี่ยนลักษณะการพัฒนารถยนต์ในทิศทางดังกล่าว หนักสุดคือบางเมืองนั้น ส่วนหลักๆ คงหนีไม่พ้นเรื่องปัญหาด้านมลพิษและสิ่งแวดล้อม ซึ่งในบางพื้นที่มีการประกาศเป็นเขตปลอดเครื่องยนต์สันดาป ทำให้ต้องมีการปรับรูปแบบ จนบางแบรนด์ออกมาประกาศชัดว่าเตรียมเลิกพัฒนาเครื่องยนต์สันดาปในอีกไม่กี่ปี ซึ่งขัดแย้งกับอีกหนึ่งแบรนด์ชั้นนำจากประเทศเยอรมนีที่เห็นต่างในเรื่องนี้ โดยล่าสุด Oliver Zipse ซีอีโอ ของ BMW Group ออกมายืนยันแล้วว่า การยกเลิกการพัฒนาเครื่องยนต์สันดาป อาจไม่ใช่ความคิดที่ถูกต้องนัก…เพราะอะไร ?

Oliver Zipse ซีอีโอ ของ BMW Group ยัน…เครื่องยนต์สันดาป จะยังได้ไปต่อ

วัสดุที่ใช้เป็นการพึ่งพาจากเพียงบางประเทศ

ความเป็นจริงอย่างหนึ่งของการพัฒนารถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือ EV Car คือ การพึ่งพาทรัพยากรจากเพียงบางประเทศ เช่น ล่าสุดที่มีข่าวแร่ลิเธียมซึ่งเป็นแร่หลักสำหรับการผลิตแบตเตอรี่ เริ่มมีความต้องการมากขึ้น จนทำให้ระดับราคาขยับตัวสูงขึ้นตามไปด้วย ส่งผลต่อเรื่องต้นทุนการผลิตโดยตรง นอกจากนี้ยังมีเรื่องชิพประมวลผลในหลายๆ รูปแบบที่ไม่สามารถผลิตได้ทันต่อความต้องการของการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือ EV Car ทั่วโลก สืบเนื่องมาจากการพึ่งพาทรัพยากรจากเพียงบางประเทศนั่นเอง

เพราะบางคนต้องการรถ…แต่ “ไม่ใช่รถ EV” 

มีผู้ใช้หลายคนอยากจะได้รถใหม่ แต่รถ EV อาจจะยังไม่ตอบโจทย์สำหรับพวกเขา ด้วยเหตุผลหลากหลายประการ…คุณจะบอกเขาว่า ให้ทนขับคันเดิมไปตลอดหรือ ? ดังนั้นรถที่ใช้เครื่องยนต์สันดาป จะยังคงเป็นคำตอบเพื่อชดเชยตรงนี้ได้ เพราะลูกค้าทุกคน ไม่ได้เต็มใจ หรือยังขาดความพร้อมสำหรับการใช้รถ EV ในยุคปัจจุบัน

พื้นที่และลักษณะความเป็นอยู่ที่ไม่อำนวย

ต่อจากในกรณีก่อนหน้า สำหรับผู้ใช้บางคนที่ไม่ได้ติดปัญหาด้านงบประมาณ หรือมีความชอบในรถ EV เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่พวกเขาดันพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่ไม่เอื้ออำนวย เช่น อพาร์ทเม้นท์ หรือคอนโดที่ไม่ได้มีระบบรองรับตรงนี้ อาจทำให้การใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือ EV Car เป็นเรื่องยากกว่าคนที่มีความพร้อมในจุดนี้

ระดับราคาเมื่อเทียบกับรถเครื่องยนต์สันดาปในพิกัดเดียวกัน

เนื่องจากรถยต์พลังงานไฟฟ้าที่มีขายอยู่นั้น ยังมีระดับราคาค่อนข้างสูง ยกตัวอย่างในต่างประเทศ อาจมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 30,000 เหรียญฯ เมื่อเทียบกับรถที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปในระดับเดียวกัน ที่มีราคาเริ่มต้นเพียง 20,000 เหรียญฯ ส่วนต่างตรงนี้ถือว่ามากพอสำหรับการตัดสินใจไม่ไปต่อกับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือ EV Car

คาดการณ์อัตราส่วนของรถยนต์ในรูปแบบต่างๆ จนถึงปี 2040

อย่างไรก็ตาม…ในภาพรวม ณ ปัจจุบัน แม้ว่าจะยังไม่มีความชัดเจนมากนัก เพราะยังเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของยุคเปลี่ยนถ่าย แต่ก็เชื่อว่าในอนาคตเราก็คงได้เห็นภาพการอยู่ร่วมกันระหว่างรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือ EV Car ที่เป็นของเกิดใหม่ กับรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาป ที่จะยังคงอยู่ต่อไป แต่อาจมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงาน เพื่อให้เข้าข่ายที่สามารถลดมลพิษได้มากขึ้น เช่น การปรับรูปแบบเป็นรถในสไตล์ Plug in Hybrid หรือการใช้เชื้อเพลิงสังเคราะห์ ที่ช่วยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ให้น้อยลงก็เป็นได้.

ส่องตลาดรถยนต์ไฟฟ้า EV CAR เมืองไทย คันไหน…น่าโดนในปี 2022 ?