หลังจากที่เก็บข้อมูลกันมานานหลายเดือน ในที่สุดก็มีการเผยสถิติของยอดขายรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือ รถ EV ในปีที่ผ่านมาอย่างละเอียด ซึ่งจากผลที่ออกมา ในหลายๆ รุ่น ถือว่าเป็นไปตามคาด แต่สำหรับบางรุ่นที่เป็นม้ามืด ด้วยกระแสความนิยมที่ออกมา ทำให้เราสามารถคาดหมายได้ถึงอนาคตและทิศทางการพัฒนาในวงการรถ EV ได้อย่างน่าสนใจ ซึ่งอาจส่งผลให้การแข่งขันในระดับโลก เป็นไปอย่างเข้มข้นมากขึ้นในช่วง 3-4 ปีข้างหน้า
Tesla ยังคงครองเจ้าตลาด
จากสถิติ…ชี้ให้เห็นว่า Tesla ยังคงเป็นแบรนด์รถ EV ที่ได้รับความนิยมเป็นลำดับต้นๆ แม้ว่าหลายๆ โมเดล จะเป็นรุ่นที่เปิดตัวมานานพอสมควร และในบางรุ่น เช่น Tesla Model 3 มีแพลนที่จะเปิดตัวรุ่น Minorchange ในอนาคตอันใกล้ โดย Tesla Model Y เป็นรถ EV ที่ขายดีที่สุดในโลกในปีที่ผ่านมา โดยทำยอดขายทั่วโลกได้ถึง 747,500 คัน โดยตัวเลขดังกล่าว ถือว่ามีการเติบโตถึง 91% เมื่อเทียบกับยอดขายในปี 2021 โดย 44% ของยอดขายทั้งหมด เป็นรถที่ขายได้ในจีน, ฮ่องกง และใต้หวัน ขณะที่ยอดขายในฝั่งอเมริกาเหนือ คิดเป็น 34% ตามมาด้วย 19% ในยุโรป (เติบโต 416% เมื่อเทียบกับปีก่อน) ส่วนยอดขายในเอเซียแปซิฟิก อยู่ที่ 13,400 คัน และอัตราส่วนรวมทั้งในเกาหลี – ญี่ปุ่น จะอยู่ที่ 9,600 คัน
แบรนด์จีน…ตีตื้นในระดับ Top ได้อย่างน่าสนใจ
ส่วนอันดับที่ 2 เป็นคู่แฝดต่างสไตล์อย่าง Tesla Model 3 ที่่ขายได้ 482,200 คัน (ลดลง -3% โดยอัตราส่วนการขายในอเมริกาเหนืออยู่ที่ 47%, ในจีน ฮ่องกง และใต้หวัน 28% และในยุโรป 19%) ซึ่งเฉือนอันดับที่ 3 อย่าง Wuling Hongguang Mini EV ไปเพียง 38,800 คัน เท่านั้น ส่วนรถ EV ที่มียอดขายเติบโตมากที่สุดในปีที่ผ่านมา คือ BYD Dolphin ซึ่งหากเทียบกับในปี 2021 แล้ว สามารถทำยอดขายเพิ่มได้ถึง 916% ในจำนวนรวม 205,200 คัน และปิดท้ายใน Top 5 ด้วย BYD Atto 3 ที่ขายได้ทั้งสิ้น 180,600 คัน (แค่ในประเทศไทย…ก็กว่า 10,000 คัน แล้ว)
7 จาก 10 รุ่น ในลิสต์…ล้วนเป็นรถจากจีน ที่ทำราคาได้ดี และมีความพร้อมในการส่งมอบมากกว่า
หากมองใน 10 อันดับแรก ของรถ EV ที่มียอดขายสูงที่สุดในปี 2022 จะพบว่า มีรถสัญชาติจีนถึง 7 รุ่น ที่ติดอันดับใน Top 10 ชี้ให้เห็นว่า ประเทศจีนนั้น ถือเป็นตลาดรถ EV ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยระดับความนิยมที่มากขึ้น จากการแข่งขันในเรื่องเทคโนโลยี รวมถึงการวางราคาในระดับที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย จนมีการคาดหมายกันว่า รถยนต์พลังงานไฟฟ้าจากประเทศจีน จะถูกส่งไปจำหน่ายยังประเทศอื่นๆ ทั่วโลก ด้วยการแข่งขันในด้านราคา รวมถึงความพร้อมในการส่งมอบที่ทำได้เหนือกว่าทางฝั่งยุโรป
EV ฝั่งยุโรป ติดโผเพียงรุ่นเดียวใน Top 10
Volkswagen ID.4 เป็นเพียงรุ่นเดียวจากแบรนด์ยุโรปที่ติดอยู่ในโผ Top 10 ของปี 2022 โดยมียอดขายอยู่ที่ 175,600 คัน (+53% โดย 47% ของจำนวนทั้งหมด เป็นรถที่จำหน่ายใน จีน ฮ่องกง และใต้หวัน, 39% ขายได้ในยุโรป และ 13% ในอเมริกาเหนือ) ตามมาห่างๆ ด้วยเพื่อนร่วมค่ายอย่าง Volkswagen ID.3 ซึ่งทำยอดขายได้เพียง 77,900 คัน (เพิ่มขึ้นเพียง 4%) โดยรถ EV ฝั่งยุโรป ที่มี % การเติบโตมากที่สุดในปีที่ผ่านมาก็คือ Volvo XC40 ที่ขายได้มากขึ้นจากปีก่อนถึง 80% ในจำนวน 43,300 คัน