โดยปกติแล้ว หากไม่มีสถานการณ์ Covid 19 มารบกวน ช่วงเวลานี้…คงเป็นโอกาสที่สายไบเกอร์รู้สึกกระชุ่มกระชวยมากที่สุด เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่ค่ายต่างๆ จะได้นำมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ๆ ออกมาเผยโฉมพร้อมโชว์ตัวในงาน EICMA ที่เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี แม้ว่าในปีนี้ หลายค่ายชั้นนำจะประกาศไม่เข้าร่วมเทศกาลที่รวมคนรักมอเตอร์ไซค์ที่จะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 23-28 พฤศจิกายนนี้ แต่ค่ายสีแดงแห่งโบโลญญ่าอย่าง Ducati ก็ยังไม่พลาดปล่อยสองล้อรุ่นใหม่ออกมาให้เราได้ชมกันเพื่อเป็นการตอกย้ำความหลากหลาย ที่ทางค่ายนำเสนอสองล้อในรูปแบบใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง
มอเตอร์ไซค์รุ่นส่าสุดของค่าย Ducati ออกมาเอาใจสายเดินทางแบบเต็มตัว หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้เปิดตัวรุ่นใหญ่ในตระกูล Multistrada V4 มาในครั้งนี้ก็เป็นคิวของรุ่นน้องอย่าง Ducati Multistrada V2 ที่ออกแบบมาให้มีน้ำหนักเบา พร้อมค่าตัวที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายมากขึ้น ซึ่งอย่างที่ทราบกันดีว่า สองล้อสำหรับสายเดินทางผู้นี้ ได้รับการพัฒนาต่อยอดมาจากมอเตอร์ไซค์สำหรับสายเดินทางพิกัดมิดเดิ้ลคลาสเจนเนอเรชั่นก่อนในชื่อ Ducati Multistrada 950 โดยสิ่งที่เป็นการเปลี่ยนหลักๆ ไม่ใช่เรื่องของภาพลักษณ์เท่านั้น แต่เป็นระดับของระบบอิเล็คทรอนิคส์ที่ประมวลผลโดย IMU แบบ 6 แกน ให้สามารถทำงานได้อย่างละเอียด มีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น เพื่อความสะดวกในการใข้งาน รวมถึงเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่ได้มากยิ่งขึ้น
Ducati Multistrada V2
มาพร้อมโหมดการขับขี่ที่หลากหลายให้เลือกถึง 4 โหมด ประกอบไปด้วย Sport, Touring, Urban และ Enduro ซึ่งในแต่ละโหมด ก็จะมีระดับการทำงานของคันเร่ง, ระบบแทร็กชั่นคอนโทรลที่สามารถปรับได้ละเอียดถึง 8 ระดับ รวมถึงการตอบสนองการทำงานของ ABS ที่แตกต่างกันออกไป โดยระบบ ABS ที่ติดตั้งมาใน Ducati Multistrada V2 ถือว่ามีความละเอียดในระดับสูง พร้อมรองรับ Cornering Function เพื่อการควบคุมความเร็วในการเข้าโค้ง และการลดความเร็วได้อย่างปลอดภัยในทุกสภาวะ นอกจากนี้ยังมีระบบการช่วยออกตัวบนทางลาดชันติดตั้งมาให้ใน Ducati Multistrada V2 อีกด้วย
Ducati Multistrada V2 มีให้เลือกใน 2 รุ่นย่อย ทั้งรุ่น Standard และรุ่น V2 S
โดยสิ่งที่เพิ่มเข้ามาในรุ่น S นั้น หลักๆ จะเป็นเรื่องฟังค์ชั่นอำนวยความสะดวก เช่น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ, ชุดโช้กอัพ Skyhook Suspension แบบ Semi Active โดยเป็นของแบรนด์ Sach ขนาดแกน 48 มม. (ในรุ่น Standard เป็นโช้ก KYB), ไฟส่องสว่างมาในรูปแบบ LED พร้อม Cornering Light, หน้าจอแสดงผลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 5 นิ้ว พร้อมฟังค์ชั่นการเชื่อมต่อกับผู้ขับขี่ ด้านชุดเบรกของ Ducati Multistrada V2 เป็นของแบรนด์ Brembo 4 POT พร้อมจานเบรกคู่ขนาด 320 มม. ชุดล้อมาในขนาด 19 / 17 นิ้ว ในด้านหน้า / หลัง โอบรัดด้วยยาง Pirelli Scorpion ขนาด 120/70 R19 และ 170/60 R17 ตามลำดับ
แม้ว่าขุมพลังที่ประจำการใน Ducati Multistrada V2 จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงสเป็คจากรุ่นก่อน แต่นั่นไม่รู้สึกว่าเป็นข้อด้อย เพราะเครื่องยนต์ 2 สูบ L-Twin Testastretta 11 Degree พิกัด 937 ซีซี. ระบายความร้อนด้วยน้ำบล็อคนี้ ให้กำลังขับเคลื่อนถึง 113 แรงม้า ที่ 9,000 รอบ/นาที และมีแรงบิดสูงถึง 93.5 นิวตัน-เมตร ที่ 6,750 รอบ/นาที ซึ่งเพียงพอสำหรับทุกการเดินทาง และที่สำคัญคือ เครื่องยนต์บล้อคนี้ ถูกพัฒนาให้มีน้ำหนักที่เบาลง ด้วยการเปลี่ยนชุดก้านสูบใหม่, ใช้ชุดคลัทช์แบบ 8 แผ่น และเปลี่ยนวัสดุที่ใช้ทำฝาครอบเครื่องให้เบาลงด้วย
อีกสิ่งสำคัญที่ถูกปรับใน Ducati Multistrada V2 ก็คือ เรื่องของท่านั่งที่พร้อมรองรับสำหรับการเดินทางในระยะไกล แฟริ่งและชิลด์หน้ามีการปรับดีไซน์ใหม่ เพื่อลดแรงปะทะของลม เพื่อลดความเมื่อยล้าขณะเดินทาง รวมถึงมีการปรับเซ็ตองประกอบเพื่อความคล่องตัวในความเร็วต่ำ เบาะนั่งถูกออกแบบให้นั่งได้สบายมากขึ้น โดยมีความสูงจากพื้น 830 มม. (มีออพชั่นลดความสูงเหลือ 790 มม. มาให้เลือก โดยปรับร่วมกับชุดช่วงล่างแบบ Semi Active) และด้วยองประกอบทั้งหมดทั้งมวลที่ถูกปรับ ส่งให้ Ducati Multistrada V2 เบากว่า Multistrada 950 อยู่ราว 4.5 กก. หรือมีน้ำหนักเพียง 199 กก. เท่านั้น (ไม่รวมของเหลว)
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพจาก cycleworld