Home » สินเชื่อรถใหม่ 2566 ดอกเบี้ยแพงขึ้น แต่เงื่อนไขซอฟท์ลง ! งานนี้ใครได้ประโยชน์ ?

สินเชื่อรถใหม่ 2566 ดอกเบี้ยแพงขึ้น แต่เงื่อนไขซอฟท์ลง ! งานนี้ใครได้ประโยชน์ ?

by Admin clubza.tv
สินเชื่อรถใหม่ 2566

วันที่ 11 มกราคม 2566 เป็นวันที่ราชกิจจาฯ มีผลบังคับใช้ประกาศธุรกิจ เช่าซื้อรถยนต์ และมอเตอร์ไซค์ อันเป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา ส่งผลต่ออัตราและวิธีการคำนวน ดอกเบี้ยรถใหม่ 2566 เพื่อเป็นมาตรการช่วยเหลือผู้ใช้ และแก้ไขปัญหาหนี้สินที่ทำสัญญาให้อยู่บนพื้นฐานของความเป็นธรรมมากยิ่งขึ้น โดยสาระสำคัญ อยู่ที่การประกาศอัตราเพดานของดอกเบี้ย รวมถึงการลดอัตราดอกเบี้ย ในกรณีที่มีการเร่งชำระก่อนถึงรอบเวลา และการลดดอกเบี้ยในกรณีที่ต้องมีการขายทอดตลาด ซึ่งที่ผ่านมา โดยรายละเอียดจะเป็นอย่างไรนั้น #ทีมขับซ่า จะพาทุกท่านๆ ค่อยๆ ดูไปทีละประเด็น

รถป้ายแดง ใครๆ ก็อยากได้ แต่ก่อนซื้อ…ดูเงื่อนไขให้ถ้วนถี่

คิดดอกเบี้ยแบบคงที่เช่นเดิม โดยกำหนดอัตราดอกเบี้ยสูงสุด ไม่เกินอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง

สาระสำคัญอย่างแรกของการปรับ สินเชื่อรถใหม่ 2566 ที่หลายๆ คนยังเข้าใจผิดว่าเป็นการคิดดอกเบี้ยเช่าซื้อรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ ใน อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงต่อปี หรือ อัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก (Effective Interest Rate) ซึ่งโดยทั่วไป จะสูงกว่าดอกเบี้ยแบบคงที่อยู่ราว 1.8x เท่า (ใช้ตัวเลขนี้เป็นสูตรคำนวนความต่างของดอกเบี้ย) แต่ในความเป็นจริงแล้ว ยังคงคิดใน อัตราดอกเบี้ยคงที่ (ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยตลอดอายุสัญญา โดยเมื่อเลือกจำนวนเดือนที่จะผ่อนเป็นที่เรียบร้อย ดอกเบี้ยจะถูกรวมเข้าไป เพื่อคำนวนออกมาเป็นค่างวด) เช่นเดิม แต่หากเทียบ สินเชื่อรถใหม่ 2566 ด้วย อัตราดอกเบี้ยคง ดังกล่าว เมื่อคำนวนออกมาแล้ว จะต้องไม่เกินกว่า อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงต่อปี ซึ่งมีการปรับอัตราดอกเบี้ยตามเงินต้นที่ลดลงในทุกๆ ปี โดย อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงต่อปี ดังกล่าว จะแบ่งตามลักษณะของรถที่ทำการเช่าซื้อ ดังนี้ 

  • รถใหม่ อัตราดอกเบี้ยไม่เกินร้อยละ 10 ต่อปี (หรือเทียบเท่าดอกเบี้ย 5.5% ต่อปี ใน อัตราดอกเบี้ยคงที่)
  • รถมือสอง อัตราดอกเบี้ยไม่เกินร้อยละ 15 ต่อปี (หรือเทียบเท่าดอกเบี้ย 8.3% ต่อปี ใน อัตราดอกเบี้ยคงที่)
  • มอเตอร์ไซค์ ทั้งรถใหม่ รถมือสอง และรถบิ๊กไบค์ อัตราดอกเบี้ยไม่เกินร้อยละ 23 ต่อปี (หรือเทียบเท่าดอกเบี้ย 12.7% ต่อปี ใน อัตราดอกเบี้ยคงที่)

สำหรับรถใหม่ และบิ๊กไบค์ อาจไม่ได้รับประโยชน์จากการปรับดอกเบี้ยใน สินเชื่อรถใหม่ 2566 มากนัก

จะสังเกตได้ว่า ดอกเบี้ยรถใหม่ 2566 เมื่อเทียบกับอัตราดอกเบี้ยก่อนหน้าที่อยู่ในระดับ 1.69-5% แล้ว ตัวเลขไม่ได้น้อยลงกว่าเดิม (มีเพียงมอเตอร์ไซค์ที่ต่ำลง เนื่องจากเฉลี่ยโดยปกติอยู่ที่ 2% ต่อเดือน หรือ 24% ต่อปี แต่รถที่เสียประโยชน์มากที่สุด หากคิดอัตราดอกเบี้ยเต็มพิกัด คือ บิ๊กไบค์ เนื่องจากโดยปกติแล้ว รถในรูปแบบนี้ จะคิดอัตราดอกเบี้ยเป็นรายปี โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 3.5 – 6%) โดยสิ่งที่ต้องระบุสำหรับใน สัญญาเช่าซื้อรถใหม่ 2566 คือ ต้องแสดงรายละเอียดเป็นส่วนแนบท้ายใบค่างวด โดยแสดงยอดการจ่ายแบบ อัตราที่แท้จริงต่อปี ที่จะเห็นว่าแบ่งเป็นเงินต้นและดอกเบี้ยในอัตราส่วนเท่าไหร่ ซึ่งหากมีการชำระจำนวนเงินเกินในรอบบิลนั้น ผู้ให้สินเชื่อจะนำเงินส่วนเกิน ไปเป็นค่างวดในรอบหน้า

จ่ายครบก่อนกำหนด ลดดอกเบี้ยไปเลย 60 – 100%

ส่วนลดดอกเบี้ยรถใหม่ 2566 หากชำระครบก่อนกำหนด

โดยปกติแล้ว ผู้ให้บริการทางการเงินจะมีส่วนลดอัตราดอกเบี้ยให้สำหรับลูกค่าที่ชำระค่างวดครบก่อนถึงระยะเวลาที่กำหนดในอัตรา 50% ของดอกเบี้ยในงวดที่เหลือ เช่น ผ่อนรถ 100,000 บาท ในอัตราดอกเบี้ย 5% คิดเป็นดอกเบี้ยตลอดระระสัญญา 5,000 บาท ต่องวด แบ่งชำระจำนวน 10 งวด เท่ากับว่าต้องชำระค่างวดทั้งสิ้น 10,500 บาท หรือรวมจำนวนเงินที่ต้องชำระตบอดระยะสัญญา คือ 105,000 บาท แต่หากผ่อนไปแล้ว 6 งวด แล้วมีเงินมากพอที่จะชำระสินเชื่อทั้งหมด ผู้กู้จะต้องจ่ายเงินต้นที่เหลืออีก 40,000 บาท กับดอกเบี้ย 50% ของอีก 4 งวดที่เหลือ ซึ่งก็คือ 50% ของ 2,000 บาท (หรือ 1,000 บาท) ดังนั้นในงวดสุดท้าย ผู้กู้จะต้องชำระ 41,000 บาท หากคิดในอัตราส่วนลดดอกเบียแบบเดิม แต่หากเป็น ส่วนลดดอกเบี้ยรถใหม่ 2566 จะมีการคิดในช่วงระยะเวลาที่ต่างกันดังนี้

  • ผู้กู้ชำระมาแล้ว ไม่เกิน 1 ใน 3 ของค่างวดทั้งหมด จะได้ส่วนลดดอกเบี้ยที่เหลือไม่ต่ำกว่า 60%
  • ผู้กู้ชำระมาแล้ว ไม่เกิน 2 ใน 3 ของค่างวดทั้งหมด จะได้ส่วนลดดอกเบี้ยที่เหลือไม่ต่ำกว่า 70%
  • ผู้กู้ชำระมาแล้ว มากกว่า 2 ใน 3 ของค่างวดทั้งหมด จะได้ส่วนลดดอกเบี้ยที่เหลือ 100% (หรือไม่เสียดอกเบี้ยเพิ่มเติม)

หากเปรียบเทียบในเงื่อนไขเดียวกับตัวอย่างด้านบน ส่วนลดดอกเบี้ยรถใหม่ 2566 ถือว่าช่วยลดภาระให้กับผู้กู้ได้อย่างน่าสนใจ โดยหากคำนวนตามเงื่อนไขการผ่อนระหว่าง 1 ใน 3 ของค่างวดที่ต้องการจะโปะเพื่อปิดปัญชี เช่น ชำระไปแล้ว 3 งวด คงเหลือยอดเงินต้นที่ต้องชำระ 70,000 บาท กับดอกเบี้ย 3,500 บาท จะต้องชำระยอดรวมทั้งสิ้น 70,000 + (3,500 – (3,500 x 60% หรือ 2,100)) = 71,400 บาท (ประหยัดไป 2,100 บาท) หรือ หากชำระมาแล้ว 7 งวด (มากกว่า 2 ใน 3 ของระยะสัญญา) เท่ากับว่าต้องใช้เงินในการโปะ 30,000 บาท โดยไม่ต้องชำระดอกเบี้ยส่วนต่างที่เหลืออีก 500 บาท จำนวน 3 งวด (รวม 1,500 บาท)

ขายทอดตลาด หากได้ราคา…ต้องได้ส่วนต่างคืน !

ถูกยกเลิกสัญญา และรถถูกขายทอดตลาด ผู้กู้ไม่ต้องชำระดอกเบี้ยส่วนที่เหลือ

ในกรณีที่ผู้กู้ถูกยกเลิกสัญญา และรถคันนั้นต้องถูกขายทอดตลาด เดิมที่แล้วผู้กู้จะต้องชำระเงินต้นที่ยังค้างพร้อมกับดอกเบี้ยในจำนวนงวดที่ยังไม่ถึงกำหนด แต่สำหรับเงื่อนไขในประกาศ สินเชื่อรถใหม่ 2566 ผู้ซื้อต้องชำระเพียงส่วนเงินต้นเท่านั้น โดยรถที่ถูกขายทอดตลาด จะต้องมีการแสดงรายละเอียดกับผู้กู้ เช่น วิธีการขายหรือประมูล รวมถึงราคาที่ขายได้ อย่างชัดเจน (ถ้ารถขายได้ราคาสูงกว่ายอดการกู้ ผู้ให้สินเชื่อ จะต้องคืนส่วนต่างให้กับผู้กู้ด้วย) อีกทั้งหากมีการขายโอน หรือเปลี่ยนสัญญา ค่าใช้จ่ายในการเปลี่่ยนสัญญา จะต้องไม่เกิน 2,500 บาท (จากเดิม 4,000 บาท) นอกจากนี้แล้ว หากผู้กู้ชำระค่างวดล่าช้า ผู้ให้สินเชื่อสามารถคิดค่าปรับได้ไม่เกิน 5% ต่อปี โดยคำนวนจากยอดเงินที่ผิดนัดชำระ (ไม่สามารถคิดจากยอดชำระที่ยังมาไม่ถึงเหมือนแต่ก่อนได้) ซึ่งตามข้อมูลทั้งหมดที่กล่าวมานี้ บังคับใช้สำหรับสัญญาการเช่าซื้อ หรือ สินเชื่อรถใหม่ 2566 สินเชื่อรถใหม่ตั้งแต่วันที่ วันที่ 11 มกราคม 2566 เป็นต้นไป เท่านั้น


ข่าวแนะนำ

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา ยอมรับ เรียนรู้เพิ่มเติม

Privacy & Cookies Policy