Home » เจาะรายละเอียด BYD Seal กับ 3 รุ่นย่อย พร้อมเปิดราคา คันไหนคุ้ม รุ่นไหนเหมาะกับใคร ?

เจาะรายละเอียด BYD Seal กับ 3 รุ่นย่อย พร้อมเปิดราคา คันไหนคุ้ม รุ่นไหนเหมาะกับใคร ?

by Admin clubza.tv
เจาะรายละเอียด BYD Seal กับ 3 รุ่นย่อย

BYD Seal เปิดตัวมาใน 3 รุ่นย่อย พร้อมประกาศราคาอย่างเป็นทางการออกมาเป็นที่เรียบร้อย โดยในรุ่นเริ่มต้น Dynamic มีราคาอยู่ที่ 1,325,000 .บาท รุ่น Premium ขับเคลื่อน 2 ล้อหลัง ที่มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 82.5 kWh เปิดราคามาที่ 1,449,000 บาท และตัวเด็ดสำหรับสายพลัง AWD Performance ถูกวางราคาเอาไว้ที่ 1,599,000 บาท โดย BYD Seal ทั้ง 3 รุ่นย่อย มาพร้อม Rever Care มูลค่า 230,000 บาท

TEST DRIVE…BYD SEAL

BYD SEAL เทียบพละกำลัง อัตราเร่ง 3 รุ่นย่อย DYNAMIC VS. PREMIUM VS. AWD PERFORMANCE คันไหนตรงปกที่สุด ?

สิ่งหนึ่งที่น่าสนใจไม่แพ้เรื่องของราคา คือ การวางสเป็คของ BYD Seal ในแต่ละรุ่นย่อยที่ถือว่าใกล้เคียงกันมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของมิติตัวถัง ที่มาพร้อมโครงสร้าง e-Platform 3.0 แบบ Cell to Body ซึ่งเป็นหัวใจหลักในการยกระดับเสถียภาพและความแข็งแรงของตัวรถ โดย BYD Seal มีมิติตัวถัง ความกว้าง x ความยาว x ความสูง อยู่ที่ 1,875 x 4,800 x 1,460 มม. และมีระยะฐานล้อ 2,920 มม. ซึ่งถือว่ายาวที่สุด เมื่อเทียบกับรถยนต์ซีดานในพิกัดใกล้เคียงกัน ส่งผลโดยตรงต่อพื้นที่ใช้สอยภายในห้องโดยสาร โดยเฉพาะพื้นที่ Leg Room ที่มีระยะมากขึ้น ด้านพื้นที่เก็บสัมภาระแบ่งเป็น 2 ส่วน ในด้านหน้ามาพร้อมช่องเก็บของขนาด 50 ลิตร และเพิ่มเป็น 400 ลิตร สำหรับพื้นที่เก็บสัมภาระทางด้านหลัง แผ่นหลังคามาในรูปแบบกระจกเคลือบด้วยซิลเวอร์เพลท ช่วยลดความร้อนและความจ้าของแสงแดดที่เข้ามาภายในห้องโดยสารอย่างเหมาะสม นอกจากนี้…ด้วยการออกแบบที่ดี ส่งผลให้ BYD Seal เป็นรถซีดานขนาดกลางที่มีความคล่องตัวสำหรับการใช้งานทั้งในและนอกเมือง โดยมีรัศมีวงเลี้ยวเพียง 5.7 ม. เท่านั้น ซึ่งสำหรับทั้ง 3 รุ่นย่อย ใช้ระบบช่วงล่างด้านหน้า Double Wishbone และช่วงล่างด้านหลังแบบ Multi Link

บทความแนะนำ TEST DRIVE…BYD SEAL กรุงเทพฯ – เขาใหญ่ ไปเกือบไม่ได้ แถมกลับไม่ถึง !!! น้องแมวน้ำคงโอด “พาฉันมาเชือด…เพื่อ ?”

BYD Sealรายละเอียดที่มีเหมือนกันทุกรุ่นย่อยใน BYD Seal

BYD Seal ทุกรุ่นย่อยรายละเอียด
ภายนอก– โครงสร้าง e-Platform 3.0 แบบ Cell to Body

– มิติตัวรถ 1,875 x 4,800 x 1,460 มม.

– ระยะฐานล้อ 2,920 มม.

– ระยะต่ำสุดจากพื้น 120 มม.

– รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.7 ม.

– ช่องเก็บสัมภาระด้านหน้า 50 ลิตร, ด้านหลัง 400 ลิตร

– กระจกด้านหน้า 2 ชั้น แบบเก็บเสียง

– หลังคากระจกพาโนรามิกเคลือบซิลเวอร์เพลท

– มือจับประตูแบบซ่อน

– ฝากระโปรงท้ายไฟฟ้า

– ช่วงล่างหน้า Double Wishbone, หลัง Multi Link

ภายใน– พวงมาลัยมัลติฟังค์ชั่น

– หน้าจอแสดงผลการขับขี่ 10.25 นิ้ว

– หน้าจออินโฟเทนเม้นท์ 15.6 นิ้ว

– เครื่องเสียง Dynaudio พร้อมลำโพง 12 ตำแหน่ง

– เบาะคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง

– เบาะผู้โดยสารปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง

– เบาะคู่หน้าพร้อมระบบระบายอากาศและอุ่น

– ระบบปรับอากาศแบบ 2 โซน

– กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ

– ที่บังแดดพร้อมกระจกและไฟส่องด้านหน้า

– USB 2 พอร์ท ที่ด้านหน้า (Type A และ C)

– USB 2 พอร์ท ที่ด้านหลัง (Type A และ C)

– Wireless Charger 2 ตำแหน่ง

– ระบบกรองฝุ่นและกรองอากาศ PM2.5 (CN95)

ฟังค์ชั่นอำนวยความสะดวก– ฟังค์ชั่น V to L กำลังไฟ 3.0 kW

– Apple Carplay

– Android Auto แบบไร้สาย

– ระบบสั่งการด้วยเสียงภาษาไทย

– ระบบนำทางด้วย GPS

– Music Streaming

– ระบบอัพเดทเฟิร์มแวร์ผ่าน OTA

– ระบบเข้า – ออกจากรถแบบ Keyless

– ระบบกุญแจแบบบัตรอิเล็กทรอนิกส์ NFC Card

ระบบความปลอดภัย– ถุงลมนิรภัย 10 ตำแหน่ง

– กล้องมองรอบทิศทาง 360 องศา

– เซ็นเซอร์ตรวจจับวัตถุด้านหน้า 2 ตำแหน่ง, หลัง 4 ตำแหน่ง

– จุดยึดเบาะเด็ก ISOFIX

– ระบบความปลอดภัยขั้นพื้นฐาน

– ระบบความปลอดภัยและช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูง (ADAS)

ห้องโดยสารของ BYD Seal ทั้ง 3 รุ่นย่อย

มาพร้อมเทคโนโลยีการขับขี่และสิ่งอำนวยความสะดวกที่อัดแน่นมาเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นการใช้หน้าจอแสดงผลการขับขี่ขนาด 10.25 นิ้ว จับคู่กับหน้าจออินโฟเทนเม้นท์ 15.6 นิ้ว ซึ่งเป็นศูนย์รวมของระบบสั่งการภายในรถ ด้านความบันเทิงมาพร้อมชุดเครื่องเสียงคุณภาพสูงจาก Dynaudio กับลำโพง 12 ตำแหน่ง รองรับการเชื่อมต่อ Apple Carplay (ผ่าน USB) และ Android Auto แบบไร้สาย ระบบปรับอากาศเป็นแบบ Dual Zone ปรับแยกอุณหภูมิ พร้อมช่องแอร์ด้านหลัง เบาะนั่งสำหรับผู้ขับขี่มาในรูปแบบปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง  และเบาะผู้โดยสารตอนหน้าปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง ในส่วนของจุดชาร์จมี USB 2 พอร์ท ที่ด้านหน้า (Type A และ C) และแบบเดียวกันอีกชุดสำหรับห้องโดยสารตอนหลัง นอกจากนี้ยังมี Wireless Charger ติดตั้งบนคอนโซลการอีก 2 ตำแหน่ง ด้านระบบความปลอดภัย เรียกว่าจัดมาให้แบบครบๆ ทั้งระบบความปลอดภัยขั้นพื้นฐาน รวมถึง ADAS ที่ประกอบไปด้วย ระบบช่วยควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน และระบบควบคุมความเร็วอัจฉริยะ, ระบบคาดการณ์และเตือนการชนด้านหน้าพร้อมช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ, ระบบเตือนและช่วยป้องกันเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน, ระบบอ่านป้ายคราจรพร้อมแจ้งเตือนความเร็ว, ระบบแจ้งเตือนและช่วยเบรกเมื่อมีรถผ่านจุดอับสายตาทางด้านหลัง, ระบบแจ้งเตือนจุดอับสายตา, ระบบแจ้งเตือนรถวิ่งผ่านเมื่อเปิดประตู รวมถึงระบบช่วยเปิดไฟสูงอัตโนมัติ ซึ่งทั้งหมดเป็นอุปกรณ์มาตรฐานที่ติดตั้งมาให้ใน BYD Seal ทั้ง 3 รุ่นย่อย

ช่องเก็บของด้านหน้าความจุ 50 ลิตร

หน้าจออินโฟเทนเม้นท์ขนาด 15.6 นิ้ว

ชุดเครื่องเสียง Dynaudio พร้อมลำโพง 12 ตำแหน่ง

Wireless Charger แบบ 2 ช่อง

แต่สำหรับผู้ใช้ที่กำลังมองหาความไม่ธรรมดาใน BYD Seal รุ่นที่สูงขึ้นมา ทั้ง Premium และ AWD Performance มีการเพิ่มอุปกรณ์ พร้อมอัพเกรดวัสดุ เพื่อยกระดับความหรูหราในแบบฉบับความเป็นรถพรีเมี่ยมขนานแท้ เริ่มตั้งแต่รายละเอียดภายนอกที่เห็นได้ชัดเจนที่สุด คือ สีตัวถัง ซึ่งในรุ่นท็อป จะมีการเพิ่มสีฟ้าเข้ามาเป็นสีที่มีเฉพาะในรุ่นนี้ ส่วนในรุ่น Premium จะมีสีเทาเพิ่มขึ้นมา จากสีขาว และดำ ในรุ่น Dynamic นอกจากนี้ ในรุ่นเริ่มต้นยังได้ล้อและยางไซส์ 225/50 R18 ในขณะที่ในรุ่น Premium และ AWD Performance จะได้ล้อขนาด 235/45 R19 เพื่อให้เหมาะสมกับระดับพละกำลัง รวมถึงรูปแบบการขับเคลื่อนที่ต่างกันไปในแต่ละรุ่นย่อย (สิ่งที่ต่างกันอีกอย่างในหัวข้อนี้ คือ ระบบเบรก) โดยอีกปัจจัยหนึ่งที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน คือ เรื่องความจุและประสิทธิภาพในการชาร์จของ BYD Blade Battery ซึ่งในรุ่น Dynamic จะรองรับ DC Quick Charge เพียง 110 kW ส่วนในรุ่น Premium และ AWD Performance จะรองรับกำลังไฟสูงสุดถึง 150 kW

ล้อ – ยาง ไซส์ 235/45 R19 สำหรับรุ่น Premium และ AWD Performance

สำหรับรุ่น Dynamic เป็นล้อขนาด 225/50 R18

รายละเอียดที่ต่างกันในแต่ละรุ่นย่อยของ BYD Seal

รายละเอียดAWD PerformancePremiumDynamic

สีตัวถัง

ขาว, ดำ, เทา, ฟ้าขาว, ดำ, เทาขาว, ดำ
ล้อ – ยาง235/45 R19235/45 R19225/50 R18
ระบบขับเคลื่อนAWDRWDRWD
กำลังขับเคลื่อนรวม523 / 670308 / 360201 / 310
ความจุแบตเตอรี่82.5 kWh82.5 kWh61.4 kWh
รองรับการชาร์จ DC150 kW150 kW110 kW
น้ำหนักตัวรถ2,1852,0551,922
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.3.8 วินาที5.9 วินาที7.5 วินาที
ระยะทางต่อชาร์จ (NEDC)580 กม.650 กม.510 กม.
ระบบเบรกคาลิเปอร์ 4 POT + รูระบายคาลิเปอร์ 4 POT + รูระบายคาลิเปอร์ 2 POT
Head Up DisplayOO
กระจกข้างปรับเมื่อถอยหลังOO
บันทึกตำแหน่งกระจกข้างOO
วัสดุหุ้มพวงมาลัยหนังแท้หนังแท้หนังสังเคราะห์
วัสดุหุ้มเบาะหนังแท้หนังแท้หนังสังเคราะห์
ดันหลังผู้ขับขี่ปรับไฟฟ้า 4 ทิศทางปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง
เมมโมรี่เบาะผู้ขับขี่OO
เลื่อนเบาะอัตโนมัติOO

ในรุ่น Premium และ AWD Performance วัสดุหุ้มเบาะและพวงมาลัยทำจากหนังแท้

หน้าจอ Head Up Display ถูกตัดออกไปในรุ่น Dynamic

ระบบดันหลังไฟฟ้า 4 ทิศทาง สำหรับรุ่น Premium และ AWD Performance

นอกจากพื้นฐานทางกายภาพของตัวรถแล้ว สิ่งที่ได้มาเพิ่มใน BYD Seal ทั้งรุ่น Premium และ AWD Performance ก็คือ การอัพเกรดวัสดุและลูกเล่นภายในห้องโดยสาร ซึ่งทั้ง 2 รุ่นนี้ จะได้วัสดุหุ้มพวงมาลัย และหุ้มเบาะด้วยหนังแท้ พร้อมระบบเมมโมรี่ และดันหลังไฟฟ้า 4 ทิศทาง สำหรับเบาะผู้ขับขี่ ส่วนในรุ่น Dynamic จะมาพร้อมหนังสังเคราะห์ที่ให้สัมผัสพรีเมี่ยมไม่แพ้กัน นอกจากนี้ในรุ่น Premium และ AWD Performance ยังจะได้หน้าจอแสดงผลบนกระจกบังลมหน้า พร้อมระบบบันทึกตำแหน่ง และฟังค์ชั่นปรับกระจกมองข้างเมื่อถอยหลังมาเพิ่มอีกด้วย

ด้วยการติดตั้งระบบ iTAC และโช้กอัพแบบ FSD ช่วยยกระดับการขับขี่ของรุ่น AWD Performance ให้มีเสถียรภาพสูงขึ้นอีกขั้น

ออพชั่นที่มีเฉพาะใน BYD Seal AWD Performance

BYD Seal AWD Performance

รายละเอียด

ฟังค์ชั่นพิเศษ– ระบบโช้กอัพแบบ Frequency Selective Damping (FSD)

– ระบบควบคุมแรงบิดอัจฉริยะ Intelligent Torque Adaption Control (iTAC)

– ระบบล็อกประตูป้องกันเด็กแบบไฟฟ้า

หากยังรู้สึกว่าลูกเล่นใน BYD Seal รุ่น Dynamic และ Premium ยังไม่จุใจ ทางเลือกกับตัวแรงอย่างรุ่น AWD Performance ยังคงมีอยู่ โดยนอกจากเรื่องของพละกำลัง และอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในระดับ 3.8 วินาที แล้ว สิ่งที่ BYD Seal AWD Performance ให้ได้มากกว่า ก็คือ ระบบการทำงานของช่วงล่างแบบ Semi Active ในชื่อ Frequency Selective Damping ที่จะปรับความหนืดโดยอัตโนมัติตามสภาพเส้นทางที่แตกต่างกัน และด้วยพื้นฐานความเป็นรถในรูปแบบ All Wheel Drive เพื่อเป็นการเฉลี่ยกำลังในการขับเคลื่อนให้เหมาะสมที่สุด BYD Seal AWD Performance จึงมาพร้อมระบบ Intelligent Torque Adaption Control (iTAC) ที่ช่วยประมวลผลและกระจายกำลังในการขับเคลื่อนไปยังแต่ละล้อให้มีความเหมาะสม เพื่อให้ตัวรถมีเสถียรภาพในระดับที่ดี ทรงตัวได้อย่างมั่นใจ และให้การยึดเกาะถนนอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ปิดท้ายด้วยระบบความปลอดภัยที่มีมาให้ในรุ่นนี้ คือ ระบบล็อกประตูป้องกันเด็กแบบไฟฟ้า ซึ่งทั้งหมดนี้ คือ ฟังค์ชั่นพิเศษที่มีเฉพาะในรุ่น AWD Performance

ระดับราคาในแต่ละรุ่นย่อยของ BYD Seal

รายละเอียดAWD PerformancePremiumDynamic
ราคา (บาท)1,599,0001,449,0001,325,000
ส่วนต่างราคา (บาท)+ 274,000+ 124,000

ข่าวแนะนำ

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา ยอมรับ เรียนรู้เพิ่มเติม

Privacy & Cookies Policy