แม้จะมีภาพลักษณ์ที่คล้ายๆ กัน แต่…ภาพไฮเปอร์คาร์ที่เห็นอยู่นี้ ไม่ใช่ Bugatti Chiron รุ่นพิเศษ ที่โดยปกติแล้ว ในช่วง 1-2 ปี ค่ายดังสัญชาติฝรั่งเศส มักจะมีรุ่นย่อยต่างๆ มาให้สายสะสมได้จับจองกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคันที่เห็นนั้น คือ อสุรกายความแรงตระกูลใหม่ของค่ายในชื่อ Bugatti Tourbillon ไฮเปอร์คาร์ที่ได้รับการอัพเกรดให้มีสมรรถนะที่เหนือชั้นขึ้นไปอีกขั้น
แม้ภาพลักษณ์โดยรวมจะดูไม่แตกต่างกับ Chiron มากนัก แต่ Bugatti Tourbillon ก็ถูกพัฒนาเพื่อทลายขีดจำกัดเดิมๆ ในการทำความเร็วสู่ระดับที่ทะลุ 400 กม./ชม. เริ่มตั้งแต่การอัพเกรดตัวถังที่สร้างขึ้นจากคาร์บอนโมโนค็อกในรูปแบบใหม่ทั้งหมด โดยเน้นที่การออกแบบแอโร่ไดนามิคส์ที่สามารถทำงานได้อย่างสอดคล้องตั้งแต่หัวจรดท้าย เช่น การใช้หางหลังแบบ Active ที่ช่วยสร้างแรงกดในย่านความเร็วสูง พร้อมยกตัวขึ้นมาโดยอัตโนมัติในขณะที่ต้องการสร้างแรงเบรกอย่างรุนแรง อัพเกรดเซ็ตช่วงล่างและระบบกันสะเทือนแบบมัลติลิ้งค์ ซึ่งเลือกใช้วัสดุที่มีน้ำหนักเบากว่าที่ใช้ใน Chiron ถึง 45% เพื่อให้รองรับการวิ่งที่ความเร็วสูงได้ดีมากขึ้น รวมไปถึงการปรับรูปแบบของขุมพลังให้มีความเร้าใจ จากเครื่องยนต์ในรูปแบบ W16 ที่เราคุ้นเคย ถูกปรับรูปแบบเป็นบล็อค V16 จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าอีก 3 ตัว ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนั้น ส่งให้ไฮเปอร์คาร์รุ่นล่าสุดอย่าง Bugatti Tourbillon มีกำลังขับเคลื่อนรวมเฉียดๆ 1,800 แรงม้า
สำหรับรายละเอียดของเครื่องยนต์ที่ประะจำการใน Bugatti Tourbillon
ถือว่าเป็นไปตามข่าวลือที่ออกมาก่อนหน้านี้ โดยเป็นเครื่องยนต์ในรูปแบบ 16 สูบ พิกัด 8.3 ลิตร ที่ได้รับการพัฒนาโดย Cosworth จุดเด่นของเครื่องยนต์บล็อคนี้ คือ สามารถหมุนในรอบสูงได้ถึง 9,500 รอบ/นาที พร้อมกับสร้างกำลังได้ทะลุ 1,000 แรงม้า พร้อมกับแรงบิด 900 นิวตัน-เมตร แม้ว่าจะเป็นเครื่องยนต์แบบไร้ระบบอัดอากาศ แม้ว่าตัวเครื่องยนต์จะมีขนาดที่ใหญ่กว่าบล็อค W16 เดิม อย่างชัดเจน แต่พัฒนาการที่ดีขึ้นของเครื่องยนต์บล็อคใหม่นี้ คือ มีน้ำหนักที่เบาเพียง 252 กก.
องประกอบที่น่าสนใจกว่าเครื่องยนต์บล้อคใหม่ใน Bugatti Tourbillon
คงหนีไม่พ้น เซ็ตมอเตอร์ e-Axle 3 ตัว ที่ช่วยเสริมกำลังในการขับเคลื่อน โดยมอเตอร์ 2 ตัวแรก จะรับหน้าที่ขับเคลื่อนที่ล้อคู่หน้า ส่วนมอเตอร์อีก 1 ตัว รับหน้าที่ขับเคลื่อนที่ล้อคู่หลัง ซึ่งกำลังรวมของมอเตอร์ทั้งหมด จะอยู่ที่ 800 แรงม้า โดยจะจับคู่กับแบตเตอรี่ความจุ 25 kWh ที่วางอยู่กึ่งกลางของตัวรถ ด้วยกำลังรวมในระดับ 1,800 แรงม้า หากยาง Michelin Pilot Sport Cup 2 สามารถสร้างแรงยึดเกาะได้เพียงพอ จะช่วยให้ Bugatti Tourbillon ทะยานจากจุดหยุดนิ่งถึงความเร็ว 100 กม./ชม. ได้ภายในเวลาเพียง 2.0 วินาที โดยความเร็วจะเพิ่มเป็น 200 กม./ชม. เมื่อใช้เวลา 5.0 วินาที และเพิ่มเป็น 300 กม./ชม. ในเวลาเพียง 10 วินาที เท่านั้น !!! ด้านความเร็วสูงสุดที่ 380 กม./ชม. ในโหมดปกติของ Bugatti Tourbillon สามารถทำได้ในเวลาที่ต่ำกว่า 25 วินาที แต่หากรู้สึกว่าความเร็วดังกล่าวยังไม่เร็วพอ ตัวรถยังมีฟังค์ชั่นเก็บปีกท้ายขนาดใหญ่เพื่อลดแรงต้าน และส่งให้สามารถทำความเร็วได้ถึง 444 กม./ชม. เลยทีเดียว
การปรับระบบพละกำลังมาเป็นรูปแบบไฮบริดของ Bugatti Tourbillon นั้น
แทบไม่ส่งผลใดๆ เลยต่อองประกอบในภาพรวม นอกจากเรื่องน้ำหนักตัวรถที่เพิ่มมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยแม้ว่าจะมีเซ็ตมอเตอร์และแบตเตอรี่เพิ่มเข้ามา แต่ Bugatti Tourbillon กลับมีน้ำหนักที่เบากว่า Chiron นอกจากนั้น ด้วยเบตเตอรี่ที่มีขนาดใหญ่ถึง 25 kWh ทำให้ตัวรถสามารถขับใช้งานภายในเมืองได้ด้วย EV Mode ถึง 60 กม. ต่อชาร์จ แม้ว่าสเป็คจะไม่ระบุความเร็วในการชาร์จ แต่โครงสร้างทางไฟฟ้าของ Bugatti Tourbillon สามารถรอบรับแรงเคลื่อนไฟฟ้าได้สูงสุดถึง 800 โวลต์
ห้องโดยสารของ Bugatti Tourbillon
ได้รับการตกแต่งในสไตล์น่าค้นหา โดยทันทีที่เปิดประตูในรูปแบบปีกนกเข้าไปภายในตัวรถ จะพบกับเซ็ตหน้าปัดที่มาในรูปแบบอนาล็อค โชว์กลไกการทำงานจากชิ้นส่วนที่มีคุณภาพสูง ซึ่งช่วยให้การแสดงข้อมูลต่างๆ ทำได้อย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้น การออกแบบชิ้นส่วน รวมถึงระบบกลไกทั้งหมดมาในรูปแบบ Switch Made โดยจะแสดงข้อมูลทั้งความเร็วในการขับขี่, รอบเครื่องยนต์, ปริมาตรเชื้อเพลิง รวมถึงอุณหภูมิและค่าการทำงานอื่นๆ โดยไม่มีชุดหน้าจอแบบดิจิตัลมาให้รบกวนสายตา (แต่มีหน้าจออินโฟเทนเม้นท์ที่รองรับการเชื่อมต่อ Apple Carplay) บริเวณคอนโซลกลาง ถูกตกแต่งด้วยแผงสวิตช์ที่ทำจากอลูมิเนียม พร้อมปุ่มสตาร์ทที่ทำจากคริสตัล ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลต้องการสื่อถึงความเป็นรถที่อยู่เหนือกาลเวลาของ Bugatti Tourbillon
แม้ว่าจะเปิดตัวเป็นที่เรียบร้อย แต่หากต้องการที่จะครอบครอง Bugatti Tourbillon คงจะต้องรอให้เข้าสู่ปี 2026 เสียก่อน เนื่องจากใน๘ระนี้ ตัวรถยังคงอยุ่ในระหว่างการทดสอบ ซึ่งในล็อตแรกจะเปิดให้จองเพียง 250 คัน เท่านั้น โดยค่าตัวของ Bugatti Tourbillon ถูกวางเอาไว้ที่ 3.6 ล้านยูโร หรือกว่า 141 ล้านบาท แบบยังไม่รวมภาษีนำเข้า !!!