ถือเป็นอีกปีที่ค่ายรถ BMW มีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกมาอย่างไม่ขาดสาย โฉยเฉพาะกับรถในตระกูล M Car เนื่องจากในปีนี้ เป็นปีแห่งการครบรอบ 50 ปี ของแผนก M นั่นจีงเป็นที่มาของการที่ค่ายรถยนตืแห่งแคว้นบาวาเรีย พยายามทำทุกอย่างเพื่อที่จะได้เผยโฉมผลิตภัณฑ์เด็ดๆ โดยเฉพาะในวงการมอเตอร์สปอร์ตออกมาให้ได้มากที่สุด ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะความต้องการทางฝั่งมอเตอร์สปอร์ตที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
รุ่นที่ 2 ในตระกูลรถ “พร้อมแข่ง” ต่อจาก BMW LMDh
หลังจากที่ค่าย BMW เผยโฉมตัวแข่งโปรโตไทป์ในรายการ BMW M V8 Le Mans Daytona (LMDh) ล่าสุดทางค่ายใบพัดฟ้าขาวก็ได้เปิดตัว รถแข่งรุ่นที่ 2 ในชื่อ BMW M4 GT4 ซึ่งมาพร้อมการอัพเกรดรายละเอียดเพื่อให้พร้อมรบในทุกสังเวียนการแข่งขัน ไม่ว่าจะเป็นการมาพร้อมหลังคาที่ทำจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ พร้อมกับหางหลังที่มาในสเป็คเดียวกับตัวแข่ง GT3 ซึ่งมีพื้นที่ในการรับลม สร้างแรงกดท้ายได้มากกว่า นอกจากนี้ยังมีการติดตั้งชุดแอโร่พาร์ทที่สามารถยกระดับการสร้างแอโร่ไดนามิคส์ได้มากกว่ารถบ้านทั่วๆ ไป โดยมีการใช้ลิ้นหน้าที่มีขนาดใหญ่จับคู่คานาร์ด พร้อมด้วยชุดสเกิร์ตในด้านข้าง ซึ่งสามารถบ่งบอกได้ว่า นี่ไม่ใช่แค่ BMW M4 ธรรมดาๆ โดยเฉพาะภายในห้องโดยสารซึ่ถูกรื้อออกจนเกลี้ยง นั่นจึงทำให้ BMW M4 GT4 มีความแตกต่างกับ BMW M4 CSL ที่ออกมาก่อนหน้านี้อย่างชัดเจน
BMW M4 GT4
แม้ว่า BMW M4 GT4 จะเป็นรถที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อการแข่งขันโดยเฉพาะ แต่ทางค่ายยังไม่ลืมที่จะใส่สิ่งอำนวยความสะดวกเข้าไปแบบพอหอมปากหอมคอ ไม่ว่าจะเป็น ระบบปรับอากาศ, ระบบไล่ฝ้าที่กระจกบังลมหน้า รวมถึงเบาะ Bucket Seat จาก Recaro ที่มาพร้อมระบบระบายอากาส ซึ่งทั้งหมดเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน โดยสิ่งที่น่าสนใจก็คือ การเลือกใช้เส้นใยจากธรรมชาติเป็นส่วนประกอบของวัสดุทั้งภายในห้องโดยสารและภายนอก ในส่สนของพวงมาลัยแบบมัลติฟังค์ชั่นมาพร้อมปุ่มคอนโทรลแบบเรืองแสง ที่ได้รับการพัฒนาโดยผู้เชี่ยวชาญด้านเรซิ่งซิมูเลเตอร์อย่าง Fanatec
ห้องโดยสารสไตล์ตัวแข่งพร้อมเซ็ตพวงมาลัยคาร์บอนไฟเบอร์จาก Fanatec
เบาะ Recaro แบบ Bucket Seat พร้อมระบบระบายอากาศ
ชุดเบรกประสิทธิภาพสูงจาก AP Racing
ขุมพลังของ BMW M4 GT4
มาในรูปแบบ 6 สูบ 3.0 ลิตร ทวินเทอร์โบ ให้กำลังในระดับ 550 แรงม้า พร้อมแรงบิด 650 นิวตัน-เมตร ตามข้อกำหนดในการแข่งขัน โดยส่งกำลังไปยังล้อขับเคลื่อนคู่หลังผ่านชุดเกียร์อัตโนมัติแบบ 7 สปีด จาก ZF จับคู่กับชุดเฟืองท้าย Limited Slip Differential ที่สามารถเลือกปรับอัตราทดได้อย่างหลากหลาย เช่นเดียวกับระบบ Traction Control ที่ BMW M4 GT4 สามารถเลือกปรับความละเอียดในการทำงานได้ถึง 10 ระดับ, ชุดสปริงจาก H&R ที่สามารถปรับค่า K ได้ 3 เลเวล และเหล็กกันโคลงที่สามารถปรับค่าได้ 5 ระดับ
BMW M4 GT4 vs. BMW M4 GT3 กับระดับค่าตัวที่ห่างกัน “เกินครึ่ง”
BMW M4 GT4 พร้อมสำหรับการแข่งขันในรูปแบบ GT4 ได้ทุกรายการในโลก โดยถูกตั้งราคาเอาไว้ที่ €187,000 (ประมาณ 6.97 ล้านบาท) ซึ่งถือว่าถูกมาก หากเทียบกับค่าตัวของรถแข่ง ฺBMW M4 GT3 ที่ราคา €415,000 (15.47 ล้านบาท) ซึ่งทั้ง 2 รุ่น ถูกวางอยู่ในตำแหน่งระหว่าง BMW M2 CS Racing และ BMW M V8 LMDh ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ของ BMW Motorsport โดย BMW M4 GT4 มีแพลนจะเข้าสู่สายการผลิตในช่วงดือนตุลาคม ที่จะถึงนี้
