Home » ก่อนจะมาเป็น BMW M3 CS เวอร์ชั่นปัจจุบัน M3 เคยมีรุ่น Limited Edition มาแล้ว…กี่เลเวล ? #เยอะจนหลายคนคาดไม่ถึงแน่ๆ

ก่อนจะมาเป็น BMW M3 CS เวอร์ชั่นปัจจุบัน M3 เคยมีรุ่น Limited Edition มาแล้ว…กี่เลเวล ? #เยอะจนหลายคนคาดไม่ถึงแน่ๆ

by Admin clubza.tv
BMW M3 CS เวอร์ชั่นปัจจุบัน M3

BMW M3 CS 2023 เปิดตัวล่าสุดบนพื้นฐานความเร้าใจที่ได้รับการถ่ายทอดมาจาก BMW M4 CSL ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น “ตัวแข่งในคราบรถโปรดักชั่น” และแรงที่สุดเท่าที่รถตระกูล M เคยมีมา ด้วยตัวเลขแรงม้าในระดับ 550 ตัว ซึ่งเทคโนโลยีดังกลา่าว ได้รับการถ่ายทอดโดยตรงสู่ BMW M3 CS ที่เน้นความยืดหยุ่นในการใช้งานมากยิ่งขึ้น ด้วยประตู 4 บาน พร้อมด้วยเบาะหลัง สามารถนั่งโดยสารได้สูงสุดถึง 5 คน อีกทั้งยังเป็นรถที่ทำอัตราเร่งจาก 0-96 กม./ชม. ได้ภายใน 3.2 วินาที (เหนือกว่า BMW M4 CSL ที่ทำได้ 3.6 วินาที)

BMW M3 CS เวอร์ชั่นพิเศษรุ่นล่าสุดของรถในตระกูล M3

อันที่จริงแล้ว…ไม่ได้มีแค่ BMW M3 CS ที่เป็นรุ่นสมรรถนะสูง (พิเศษ) และผลิตในจำนวนจำกัดที่แผนก M เคยผลิตมา แต่ที่ผ่านมานั้น ทางค่าย BMW เคยสร้างรถในรูปแบบ Limited Edition ออกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในครั้งนี้ เราจะมาลองไล่กันดูว่าในรอบ 35 ปี ที่ผ่านมา กว่าจะมาถึง BMW M3 CS อย่างที่เราได้เห็นกันในทุกวันนี้ BMW M3 เคยทำรุ่น Limited คันไหน…ออกสู่ตลาดบ้าง ?

 

BMW M3 Evo II (E30) ปี 1988 จำนวนการผลิต 501 คัน

ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของรถในตระกูล M3 อย่างแท้จริง โดยหากพูดถึงความเป็นออริจินัลของรถในตระกูล M Car นั้น…BMW M3 บอดี้ E30 มีดีกรีไม่เป็นรองคันไหนๆ ในโลก ตัวรถเปิดตัวครั้งแรกในปี 1985 แต่ด้วยการแข่งขันในยุคนั้นที่ค่อนข้างดุเดือด ในช่วงปลายยุค 80 ทำให้ทาง BMW M GmbH ต้องวางแผนที่จะอัพเกรด BMW M3 ขึ้นมา จนกลายร่างเป็น BMW M3 Evo และ Evo II อย่างที่เห็น โดยในรุ่นแรก ความเปลี่ยนแปลงอาจไม่มากนัก แต่สำหรับรุ่น Evo II ถือว่ามีการปรับรายละเอียดได้อย่างน่าสนใจทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการอัพขนาดของล้อจาก 15 เป็น 16 นิ้ว การใช้กระจกที่บางลง รวมถึงฝากระโปรงดีไซน์พิเศษเพื่อลดน้ำหนัก สปอยเลอร์หน้าและท้าย ออกแบบใหม่ให้สามารถสร้างแรงกดได้มากขึ้น ขยับความจุของเครื่องยนต์เป็น 2.3 ลิตร เพิ่มแรงม้าได้อีก 20 ตัว จนไปจบที่ 220 แรงม้า

 

BMW M3 Sport Evolution (E30) ปี 1990 จำนวนการผลิต 600 คัน

อาจไม่ใช่รถที่หายากเท่า M3 Evo II ที่ออกมาก่อนหน้า แต่กลับเป็นรถที่มีความต้องการมากกว่า โดยความพิเศษที่เหนือกว่า คือ การใช้สปอยเลอร์ที่ด้านหน้าและด้านท้ายแบบปรับองศาได้ พร้อมการดึงโป่งตัวถังที่มีความกว้างมากยิ่งขึ้น ส่วนไฮไลท์ภายในห้องโดยสารของ BMW M3 Sport Evolution คือ การมาพร้อมพวงมาลัย M Technic II หุ้มด้วยAlcantara จับคู่กับชุดเบาะจาก Recaro แต่ที่เป็นสุดยอดปรารถหนาของสาวก M ก็คือ ขุมพลังในรหัส S14 ที่อัพความจุจาก 2.3 เป็น 2.5 ลิตร ซึ่งช่วยยกระดับพละกำลังขึ้นมาเป็น 238 ตัว

BMW M3 GT (E36) ปี 1995 จำนวนการผลิต 350 คัน

การปรับเปลี่ยนขุมพลังจากบล็อค 4 สูบ ไปเป็นบล็อค 6 สูบ ของ BMW M3

ถือเป็นการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด โดยสามารถยระดับพละกำลังขึ้นมาได้ถึง 286 แรงม้า ในรุ่นสแตนดดาร์ด ก่อนที่จะขยับมาเป็น 295 แรงม้า สำหรับ BMW M3 GT ด้วยการเปลี่ยนชุดแคมชาฟท์องศาสูง 264 องศา จาก British Racing Green GTs ซึ่งเป็นชุดแค็มชาฟท์ที่ออกแบบมาเพื่อการแข่งขันโดยเฉพาะ ซึ่งนอกจากเครื่องยนต์จะแรงขึ้นแล้ว ยังปรับแอโร่ไดนามิคด้วยการดีไซน์ชิ้นสปอยเลอร์หน้า-หลัง แบบปรับองศาได้ เพิ่มความแข็งแรงของตัวถังด้วยชุดสตรัทค้ำโช้ก รวมถึงเปลี่ยนประตูเป็นอลูมิเนียม เพื่อลดน้ำหนัก

 

BMW M3-R (E36) ปี 1995 จำนวนการผลิต 15 คัน

BMW M3-R จัดว่าเป็นรถที่มีสมรรถนะดุดันกว่าเวอร์ชั่น GT

โดยเป็นรุ่นที่ทาง BMW M ฝั่งออสเตรเลียสั่งเข้ามาทำตลาดเพื่อการแข่งขัน Australian Super Production series ภายใต้การพัฒนาร่วมกับทีมแข่ง Frank Gardiner Racing Team เพียง 15 คัน (11 คัน ถูกทำเป็นรถแข่ง ส่วนอีก 4 คัน เป็นรถที่ขายในฐานะโปรดักชั่น) โดยทั้งหมดนั้น มาในสีตัวถัง Alpine White III จับคู่กับภายในสี Anthracite M ซึ่งด้วยความที่ถูกพัฒนามาเพื่อเป็นรถแข่ง ทำให้ BMW M3-R ได้รับการอัพเกรดอุปกรณ์ต่างๆ ให้มีความทนทานมากยิ่งขึ้น เริ่มตั้งแต่ เปลี่ยนชุดเพลากลางโดยยืมของรุ่นพี่ BMW 850Ci (E31) มาใช้ จับคู่กับชุดคลัทช์จาก AP Racing ก่อนปรับอัตราทดเฟืองท้ายเป็น 3.23 เพื่ออัตราเร่งที่จัดจ้านมากขึ้น ด้านระบบช่วงล่างมีการอัพเกรดโช้กและสปริง เช่นเดียวกับชุดเบรกจาก AP Racing แบบ 4 POT ปรับแอโร่ไดนามิคส์ด้วยชุดสปอยเลอร์หน้า-หลังสไตล์ GT รวมถึงใช้ล้อขนาด 17 นิ้ว ด้านเครื่องยนต์บล็อค S50 B30 พิกัด 3.0 ลิตร NA ได้รับการอัพเกรดสมรรถนะโดย BMW M GmbH ร่วมมือกับ Schnitzer Motorsport GmbH ยกระดับพละกำลังเป็น 324 แรงม้า พร้อมกับแรงบิด 351 นิวตัน-เมตร

 

BMW M3 Lightweight (E36) ปี 1995 จำนวนการผลิต 115 คัน

โดยปกติแล้ว BMW M3 (E36) ที่ทำตลาดโดยทั่วไป จะใช้เครื่องยนต์ในรหัส S50 B30 ที่มาพร้อมลิ้นเร่งแบบ 6 ลิ้น ให้แรงม้าจากโรงงาน 286 ตัว แต่สำหรับเวอร์ชั่นอเมริกา…หาเป็นเช่นนั้นไม่ เนื่องจาก M3 US Version ใช้เครื่องยนต์ในรูปแบบ “ลิ้นเดี่ยว” นั่นจึงทำให้ระดับพละกำลังถูกลดทอนลงมาอยู่ที่ 243 แรงม้า จนกลายเป็นที่มาของ BMW M3 Lightweight ที่เน้นการลดน้ำหนักโดยตัดอุปกรณ์ที่ไม่จำเป็นออกไป (พร้อมเพิ่มชิ้นส่วนที่ทำให้ตัวรถมีความแข็งแรงมากขึ้น) เพื่อชดเชยกับตัวเลขแรงม้าที่ต่ำกว่า โดยเมื่อลดน้ำหนักแล้ว ตัวรถเบากว่าเวอร์ชั่นสแตนดาร์ดถึง 102 กก. จับคู่กับการใช้อัตราทดเฟืองท้ายที่จัดมากขึ้น ตัวถังเล่นสีสันแนวมอเตอร์สปอร์ด้วยสี Alpine White III ซึ่งนอกจากนี้ ผู้ครองครองที่ต้องการสมรรถนะที่เหนือกว่า ยังสามารถอัพเกรดชุดช่วงล่างและเบรก รวมถึงอ่างน้ำมันเครื่องซิ่ง โดยสั่งผ่านทางโชว์รูมได้อีกด้วย

 

BMW M3 GTR (E36) ปี 1994 จำนวนการผลิต 2 คัน

ถือเป็นไอเดียที่บ้าคลั่งที่สุดที่เกิดขึ้นกับ BMW M3 ในบอดี้ E36 เลยทีเดียว โดย BMW M3 GTR ถูกสร้างขึ้นในจำนวนเพียง 2 คัน ภายใต้เงื่อนไขความเป้นรถที่ต้องสามารถวิ่งได้อย่างถูกกฎหมายบนถนน (รถจำลองมาจากตัวแข่ง BMW M3 ที่ใช้ในการแข่งขัน ADAC German GT Cup Touring Car series ในปี 1994) ภายในมาพร้อมห้องโดยสารที่เปลือยเปล่า พร้อมเติมความแข็งแรง ลดอาการบิดตัวด้วยโรลเคจเต็มคัน โป่งข้างถูกขยายออกเพื่อให้รับกับล้อขนาด 18 นิ้ว เครื่องยนต์มาในรหัส S50 พิกัด 3.0 ลิตร ให้กำลัง 300 แรงม้า เป็นรถที่แม้จะใช้ขับไปร้านสะดวกซื้อ แต่ก็ให้อารมณ์เหมือนขับอยู่ใน Nurburgring เลยทีเดียว

 

BMW M3 CSL (E46) ปี 2003 จำนวนการผลิต 1,383 คัน

BMW ห่างหายไปจากการใช้รหัสต่อท้าย CSL (Coupe Sport Lightweight) มาเกือบ 30 ปี (หลังจากที่ปล่อย BMW 3.0 CSL) จนกระทั่งมันเกิดขึ้นกับ BMW M3 CSL (E46) ที่ถูกยกระดับสมรรถนะของขุมพลัง 6 สูบเรียง รนหัส S54 พิกัด 3.2 ลิตร จาก 343 เป็น 360 แรงม้า จับคู่ระบบส่งกำลัง 6 สปีด แบบ Sequential M Gearbox (SMG) ที่มาพร้อม Paddle Shift นอกจากนี้ BMW M3 CSL ยังได้รับการอัพเกรดสมรรถนะด้วยล้อและยาง Michelin Pilot Sport Cup ที่มีความกว้างมากขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการยึดเกาะในสไตล์เรซซิ่ง เช่นเดียวกับการปรับการตอบสนองของระบบบังคับเลี้ยวที่มีความเฉียบคม ทำงานร่วมกับ M Track ที่สามารถปรับได้ที่ปุ่มบนพวงมาลัย Alcantara ส่งให้ผู้ขับขี่วาดลวดลายได้อย่างเร้าใจมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้แล้ว BMW M3 CSL ยังถูกลดน้ำหนักด้วยการใช้หลังคาคาร์บอนไฟเบอร์ กันชนหน้า-หลัง ที่ทำจากวัสดุคอมโพสิต รวมถึงฝากระโปรงท้ายที่มีการเจาะช่อง ส่วนภายในมาพร้อมเบาะ Bucket Seat โดยรื้อแผงประตูและสิ่งที่ไม่จะเป็นออกไปทั้งหมดในสไตล์ที่ใก้เคียงกับตัวแข่ง

 

BMW M3 CS (E46) ปี 2005 จำนวนการผลิต 3,011 คัน

Bimmer ทั่วโลกอาจไม่คุ้ยเคยกับ BMW M3 CS มากนัก เพราะเป็น M Car ที่ทำตลาดเฉพาะในสหราชอาณาจักร โดยมีรหัสเรียกที่รู้กันเฉพาะคนเล่น คือ ZCP (ส่วนในตลาดอื่นๆ จะรู้จักกันในชื่อ Competition Package) อันเป็นเสมือนการยกระดับ BMW M3 รุ่นปกติ ให้มีกลิ่นอายความเป็น CSL ด้วยการเติมเครื่องเคียงเข้าไป ไม่ว่าจะเป็น ระบบเบรกแบบจาน 2 ชิ้น เซาะร่อง, พวงมาลัยที่ให้การตอบสนองที่เฉียบคมมากขึ้น โดยทำงานร่วมกับระบบรักษาเถสียรภาพ M Track,  ชุดล้อจาก BMW M3 CSL โดยสิ่งที่ยังคงเดิม คือ เครื่องยนต์ 6 สูบ พิกัด 3.2 ลิตร (มีเกียร์ธรรมดา กับเกียร์ SMG ให้เลือก) กำลังสูงสุดอยู่ที่ 337 แรงม้า โดยนอกจากรุ่นนี้แล้ว ในฝั่งอเมริกา มีการนำ Competition Package มาทำตลาดอีกครั้งในรุ่น E92 ปี 2010)

 

BMW M3 GTR (E46) ปี 2002 จำนวนการผลิต 3 คัน

แม้ว่าทั้ง 3 รุ่น จะลงท้ายด้วย CSL (3.0 CSL E9, M3 CSL E46 และ M4 CSL G82) เหมือนกัน แต่สิ่งหนึ่ที่ทำให้ E9 นั้นแตกต่าง คือ การเกิดมาเพื่อเป็นรถแข่งแท้ๆ ในฐานะ Homologation Special (ในลักษณะใกล้เคียงกับ Toyota GR Yaris ที่ต้องการทำมาเพื่อใช้ในการแข่งขัน WRC แต่ด้วยเงื่อนไขความเป็นรถโปรดักชั่น ที่สามารถลงทำการแข่งขันได้คือ จะต้องมีจำนวนการผลิตเพื่อจำหน่ายไม่ต่ำกว่า 2,500 คัน/ปี ณ ปัจจุบัน) ในรูปแบบเดียวกับ BMW M3 GTR (E46) ที่สร้างมาเพื่อการแข่งขัน American Le Mans Series (ในยุคนั้นไม่ได้บังคับเรื่องจำนวน จึงทำออกมาเพียง 3 คัน) จุดเด่นของ M3 รุ่นนี้ คือ เป็นการนำ M3 CSL มาต่อยอด โดนไม่ได้ใช้เครื่องยนต์แบบ 6 สูบเรียง เหมือนกับ M3 ตระกูล E46 ทั่วไป แต่มาพร้อมขุมพลัง V8 พิกัด 4.0 ลิตร ที่ให้กำลังสูงถึง 380 แรงม้า

 

ยังมี BMW M3 ที่เวอร์ชั่น Limited ให้ได้ติดตามอย่างเข้มข้นใน Part II


ข่าวแนะนำ

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา ยอมรับ เรียนรู้เพิ่มเติม

Privacy & Cookies Policy