การฉลองครบรอบ 50 ปี ของ BMW M GmbH ไม่ได้มีเพียงแค่การเปิดตัวสปอร์ตโปรดักชั่นรุ่นพิเศษอย่าง BMW M4 CSL หรือตัวแข่ง BMW M4 GT3 ที่ได้รับการตกแต่งภาพลักษณ์พิเศษ เพื่อการแข่งขัน Nuburgring 24 ชั่วโมง ในปีนี้เท่านั้น แต่ความสำเร็จของ 50 ปี แห่งประวัติศาสตร์ของ BMW M GmbH ยังลามไปถึงในวงการสองล้อ ที่มี M Superbike อย่าง BMW M1000 RR อยู่ในสารบบ นั่นจึงทำให้แผนก M ปล่อยสองล้อรุ่นพิเศษออกมาในโอกาสครบรอบ 5 ทศวรรษ ในปีนี้ด้วย
การเปิดตัวของ BMW M1000 RR ในรูปแบบ 50 Years M Anniversary Edition มาพร้อมสี Sao Paulo Yellow อันเลื่องชื่อ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งสีที่ได้การตอบรับที่ดีใน BMW M4 Competition พร้อมคาดสีไตรคัลเลอร์ข้างถังน้ำมันบ่งบอกความเป็น M Bike นอกจากนี้ยังมาพร้อมโลโก้แบบพิเศษเพื่อฉลองการครบรอบ 50 ปี ของ BMW Motorsport เท่านั้น ในสเป็คพื้นฐานของ BMW M1000 RR 50 Years M Anniversary Edition ไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนอะไรเป็นพิเศษนัก ซึ่งในภาพรวมของตัวรถ BMW M1000 RR ถือเป็นหนึ่งในสุดยอดซูเปอร์ไบค์ที่หาตัวจับยากอยู่แล้ว
แต่หากผู้ครอบครองต้องการความสุดที่ไม่ซ้ำใคร ทาง BMW ได้จัดแพคเกจให้เลือกช็อปด้วยออพชั่น M Package ซึ่งประกอบไปด้วย M GPS Lap Timer ซอฟท์แวร์สำหรับการจับเวลาต่อรอบ, ฝาครอบเบาะท้ายและเบาะสำหรับผู้ซ้อน นอกจากนี้ยังมีแพคเกจ M Carbon ประกอบไปด้วย บังโคลนหน้า – หลังคาร์บอน, ชุดแฟริ่งด้านบนที่ทำจากคาร์บอน, ครอบถังน้ำมันคาร์บอน, การ์ดบังโซ่คาร์บอน และฝาครอบสเตอร์ที่ทำจากคาร์บอนเช่นเดียวกัน ก่อนตบท้ายด้วยแพคเกจ M Billet ที่เป็นการเพิ่มชิ้นส่วนอลูมิเนียม CNC สำหรับการปกป้องชิ้นส่วนต่างๆ ของตัวรถ ไม่ว่าจะเป็น ก้าบเบรก ก้านคลัทช์ แบบปรับและพับได้, การ์ดก้านเบรก รวมถึงเบาะนั่งสำหรับคนซ้อน นอกจากนี้ M Package สำหรับ BMW M1000 RR 50 Years M Anniversary Edition ยังรวมไปถึงการสร้างความโดดเด่นให้กับสวิงอาร์มหลังด้วยสีอโนไดซ์ และชุดโช่ M Endurance ที่ทนต่อการใช้งานมากขึ้น
BMW M1000 RR 50 Years M Anniversary Edition
ขุมพลัง 999 ซีซี. ที่ให้แรงม้าถึง 205 ตัว ที่ 13,000 รอบ/นาที พร้อมแรงบิด 112 นิวตัน-เมตร ที่ 11,000 รอบ/นาที ขับเคลื่อนด้วยชุดเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ที่ทำงานร่วมกับ Quick Shifter ที่ช่วยให้สามาถเพิ่มและลดเกียร์ได้โดยไม่ต้องกำคลัทช์หรือถอนคันเร่ง โดย BMW M1000 RR 50 Years M Anniversary Edition สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 3.1 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 304 กม./ชม. สมรรถนะเร้าใจระดับหัวแถววแบบนี้ คงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกในหากซูเปอร์ไบค์ผู้นี้ จะได้รับคำชมจากปากคนเล่นสองล้อมาแล้วแบบนับไม่ถ้วน