หลังจากที่แผนก BMW M ได้เปิดตัว M Car รุ่นล่าสุดอย่าง BMW M5 ก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ไปในทิศทางที่ต่างกัน แต่สิ่งหนึ่งที่ดูจะเป็นข้อด้อยของ M Car รุ่นใหม่ซึ่งใหญ่สุดๆ คันนี้ คงหนีไม่พ้นเรื่องน้ำหนักที่ดูจะมากเกินไปจนอาจจะไม่เหมาะกับความเป็นรถสาย Performance ซึ่งล่าสุด BMW M ผลักดัน BMW M5 เข้าสู่วงการมอเตอร์สปอร์ตอย่างเป็นทางการ เพื่อแสดงให้ทั่วโลกได้เห็นว่า แม้ซีดานพันธุ์แรงคันนี้ จะมีขนาดที่ใหญ่และน้ำหนักตัวที่มากกว่ารถยนต์สมรรถนะสูงทั่วๆ ไป แต่ก็สามารถแสดงศักยภาพในสนามแข่งได้ไม่เป็นรองใครเช่นกัน
BMW M5 เข้าสู่การแข่งขันในระดับเวิลด์คลาสในฐานะรถ Safety Car ในการแข่งขันจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก หรีอ MotoGP โดยถูกนำมาใช้เป็นครั้งแรกในการแข่งขันรายการ San Marino Grand Prix 2024 เมื่อวันที่ 6-8 กันยายน ที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นเวลาต่อเนื่องถึง 26 ฤดูกาล (ตั้งแต่ปี 1999) ที่ทาง BMW ได้ส่งรถเข้าเป็นส่วนหนึ่งในการแข่งขันระดับโลกรายการนี้ โดย BMW M5 ถือเป็นหนึ่งในรถซีดานสมรรถนะสูง ที่มีส่วนร่วมกับการแข่งขัน MotoGP ในฐานะ Safety Car มาแล้วถึง 5 เจนเนอเรชั่น ซึ่งสำหรับในฤดูกาลนี้ นับเป็นโมเดลที่ 4 ต่อจาก BMW XM Label Red, BMW M3 Touring และ BMW M2 ที่ทาง BMW M ได้ส่งตัวแรงร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ต เพื่อแสดงให้เห็นถึงความเป็นแบรนด์ที่ให้ความสำคัญกับวงการมอเตอร์สปอร์ตตัวจริง
BMW M5 ได้รับการอัพเกรดลวดลายเพื่อให้เข้ากับธีม Safety Car ในการแข่งขัน MotoGP 2024 โดยมาพร้อมตัวถังสีดำด้าน พร้อมคาดแถบสีไตรคัลเลอร์ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากตัวแข่ง M Hybrid ในการแข่งขัน Le Mans ซึ่งเมื่อจับคู่อยู่กับชุดโป่งซุ้มล้อที่ถูกดึงออกมาจากตัวถัง ยิ่งส่งให้ BMW M5 เจนเนอเรชั่นล่าสุด เจ้าของขุมพลัง V8 พิกัด 4.4 ลิตร ทวินเทอร์โบ 577 แรงม้า พร้อมกับแรงบิด 750 นิวตัน-เมตร จับคู่กับระบบไฮบริด ที่เมื่อผนึกกำลังกับเครื่องยนต์แล้ว จะส่งให้ BMW M5 สำแดงแสนยานุภาพได้สูงสุดถึง 717 แรงม้า กับแรงบิด 1,000 นิวตัน-เมตร ดูเป็นซีดานพันธุ์แรงที่มีภาพลักษณ์ดุดันมากยิ่งขึ้น
นอกจาก BMW M5 จะปรากฎตัวในฐานะรถ Safety Car แล้ว ซีดานผู้นี้จะยังเป็นส่วนหนึ่งของรางวัล BMW M Award ในฤดูกาลนี้ด้วยเช่นกัน โดยรางวัลดังกล่าว เป็นการคัดเลือกนักแข่งที่ทำผลงานได้น่าประทับใจที่สุดในฤดูกาลนั้นๆ (เจ้าของรางวันในฤดูกาล 2022 และ 2023 คือ Francesco Bagnaia) ซึ่งคงต้องรอติดตามกันว่า อดีตแชมป์โลก 2 ซ้อน จะสามารถคว้ารางวัลนี้ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ได้หรือไม ?