หลังจากที่เปิดตัวไปก่อนนี้แล้ว 2 รุ่น ทางค่าย BMW ยังคงเดินหน้าเพิ่มทางเลือกสำหรับคนที่กำลังมองหารถในรูปแบบพรีเมี่ยมซีดานที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 100% โดยในครั้งนี้ทางค่ายใบพัดฟ้าขาวได้นำเสนอ BMW i4 eDrive35 อันเป็นเสมือนจุดเริ่มต้นของรถในตระกูล i4 ซึ่งเดิมทีแล้ว ทำตลาดด้วยรุ่นย่อยที่มาในรหัส i4 eDrive 40 และ i4 M50 ที่เป็นเสมือน M Car รุ่นแรกของรถในรูปแบบที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าล้วนๆ
แน่นอนว่าการมาในครั้งนี้ของ BMW i4 eDrive35 จะเป็นการช่วยเติมเต็มช่องว่างสำหรับคนที่ต้องการเข้าถึงเทคโนโลยีขับเคลื่อนในสไตล์ EV Car แต่ไม่อยากจ่ายแพง (เท่ากับรุ่นพี่) ซึ่งรายละเอียดของตัวรถถูกปรับเพื่อให้เหมาะกับรูปแบบการใช้งาน โดยไม่กระทบกับต้นทุนในการผลิตมากจนเกินไปนัก ด้วยการใช้มอเตอร์ 1 ชุด ขับเคลื่อนล้อคู่หลัง ผ่านชุดล้อขนาด 18 นิ้ว พร้อมกับปรับลดขนาดความจุของชุดแพ็คแบตเตอรี่ให้ลดลงเล็กน้อย โดยอยู่ที่ 66 kWh (สำหรับทั้ง 2 รุ่น ที่ออกมาก่อนหน้า มาพร้อมแพ็คแบตเตอรี่ขนาด 81.5 kWh รองรับระยะทางการวิ่งไกลสุดที่ 510 กม. ตามมาตรฐาน WLTP) ซึ่งจำทำให้ BMW i4 eDrive35 สามารถวิ่งได้ราว 418 กม. ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง
แม้ว่าแบตเตอรี่จะมีขนาดเล็กลง แต่ความสามารถในการชาร์จไฟของ BMW i4 eDrive35 กลับไม่ได้ด้อยลงไปด้วย โดยตัวรถรองรับกระแสไฟชาร์จแบบ DC ในระดับ 180 kW นั่นหมายความว่า BMW i4 eDrive35 สามารถชาร์จจาก 10-80% ได้ภายใน 32 นาที ส่วนชุดมอเตอร์ที่ใช้ในการขับเคลื่อน เป็นการต่อยอดมาจากระบบขับเคลื่อนในรูปแบบ eDrive ซึ่งพัฒนามาจนถึงเจนเนอเรชั่นที่ 5 สามารถสร้างกำลังในการขับเคลื่อนสูงสุด 285 แรงม้า (เป็นระดับพละกำลังที่ใกล้เคียงกับมอเตอร์ที่ใช้ขับเคลื่อนล้อคู่หน้าของ BMW i4 M50) พร้อมกับแรงบิดในระดับ 400 นิวตัน-เมตร ช่วยให้ BMW i4 eDrive35 เป็นรถที่สามารถทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ต่ำกว่า 6 วินาที
BMW i4 eDrive35
อาจเป็นรถที่ถูกลดทอนพละกำลัง รวมถึงระยะทางในการใช้งานลงไปเล้กน้อย เมื่อเทียบกับรุ่นพี่ที่ออกมาก่อนหน้า แต่หากถ้าเป็นเรื่องลูกเล่นและสิ่งความสะดวกภายในห้องโดยสารแล้ว น้องใหม่ในตระกูล i4 ผู้นี้ ถือว่าไม่เป็นรองใคร ด้วยการมาพร้อมชุดหน้าจอในรูปแบบ Curve Display อันเป็นลูกเล่นยุคใหม่ของค่ายใบพัดฟ้าขาวที่ประกอบไปด้วย ชุดหน้าจอแสดงผลการขับขี่ขนาด 12.3 นิ้ว จับคู่กับหน้าจออินโฟเทนเม้นท์ขนาด 14.9 นิ้ว วางยาวเรียงกันเป็นหนึ่งเดียว โดยลูกเล่นรวมถึงออพชั่นอื่นๆ นั้น จัดมาให้ครบไม่แพ้รุ่นพี่อย่าง BMW i4 eDrive 40 เลยทีเดียว
BMW i4 eDrive35
พร้อมเข้าสู่สายการผลิตที่แพลนท์ของ BMW ในเมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี ช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ โดยถูกวางราคาเอาไว้ที่ 52,395 ดอลล่าร์สหรัฐฯ (ประมาณ 1.89 ล้านบาท) ซึ่งเป็นราคาที่ต่ำกว่ารุ่นพี่อย่าง BMW i4 eDrive 40 อยู่ถึง 4,000 ดอลล่าร์สหรัฐฯ (ประมาณ 1.44 แสนบาท) ซึ่งต้องอย่าลืมว่า นี่เป็นเพียงราคาส่วนต่างแค่ที่ต้นทาง หากรวมอัตราภาษีกว่าจะส่งถึงมือผู้ใช้ชาวไทยแล้วล่ะก็…คงมีส่วนต่างเฉียดๆ “ครึ่งล้าน” อย่างแน่นอน