หลังจากที่รับใช้แบรนด์มาอย่างยาวนาน จนได้การยอมรับว่าเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่จุดประกายให้กับวงการรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือ รถ EV ในที่สุดเวลาของ รถ EV ยุคบุกเบิก ในตำนานอย่าง BMW i3 ก็หมดลง โดยทางค่ายเตรียมที่จะส่งมอบรถล็อตสุดท้ายจำนวน 18 คัน ในเมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี ซึ่งความพิเศษของ BMW i3 ล็อตดังกล่าว คือ การมาพร้อมสีตัวถัง Galvanic Gold
BMW i3 รถยนต์พลังงานไฟฟ้ายุคบุกเบิก
เริ่มทำตลาดมาตั้งแต่ปี 2014 ซึ่งหากนับจนถึงปัจจุบัน สามารถสร้างยอดขายได้มากกว่า 250,000 คันทั่วโลก โดยรถรุ่นนี้ ประกอบไปด้วยระบบ Powertrain ที่มาใน 2 รูปแบบ ทั้งในรุ่นปกติที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอรืไฟฟ้าจับคู่แบตเตอรี่ล้วนๆ กับรุ่นที่เรียกว่า Range Extended (ไฮบริด) ที่มีการติดตั้งเครื่องยนต์ 2 สูบ ขนาด 647 ซีซี. เข้าไปช่วยปั่นไฟเพื่อเพิ่มระยะการเดินทางให้มากยิ่งขึ้น โดยสามารถเดินทางได้ในระยะไกลที่สุดถึง 320 กม. นอกจากนี้…อีกหนึ่งจุดเด่นของรถในตระกูล BMW i3 ก็คือ การใช้แชสซีส์อลูมิเนียม ครอบด้วยโครงสร้างตัวถังที่ทำจากคาร์บอนไฟเบอรื ซึ่งช่วยให้ตัวรถมีน้ำหนักที่เบา และสามารถใช้เชื้อเพลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงยิ่งขึ้น
สำหรับ BMW i3s ล็อตพิเศษในสี Galvanic Gold ทั้ง 18 คัน ถูกส่งมอบให้กับบริษัท CarVia ผู้ประกอบการรถเช่า BMW Welt ในเมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี ไปเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม ที่ผ่านมา (หลังจากการเปิดตัวรุ่นพิเศษฉลองครบรอบ 9 ปี ของสายการผลิต BMW i3 ด้วยเวอร์ชั่นพิเศษ Home Run Edition ซึ่งทำออกมาเพียง 10 คัน ไปไม่นาน) ซึ่งนอกจากการมาพร้อมตัวถังสีทองที่มีความโดดเด่นแล้ว ล็อตดังกล่าว BMW i3s รุ่นนี้ ยังมีการเติมลูกเล่นให้ดึงดูดมากขึ้นด้วยการคาดตัวถังด้วยสีดำ ทั้งที่บริเวณฝากระโปรงหน้า, หลังค รวมถึงประตูท้าย พร้อมกับการใส่ล้อที่มาในสีดำเงา
CarVia พร้อมปล่อย BMW i3s ในสี Galvanic Gold ให้เช่าในอัตราค่าใช้จ่าย 40 ยูโร ต่อวัน (ประมาณ 1,450 บาท) ซึ่งถือเป็นค่าใช้จ่ายที่สบายกระเป๋า แต่ด้วยการพัฒนาของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือ รถ EV ที่ถูกอัพเลเวลไปอีก (หลายขั้น) ทำให้ในปัจจุบัน BMW i3s ไม่สามารถแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับรุ่นพี่ในตระกูล i4 และ iX ที่ตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างยืดหยุ่นมากกว่า
